มท.1 มอบนโยบายขับเคลื่อนงานของมหาดไทยให้เดินหน้าสนองนโยบายรัฐบาล พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ตามอำนาจหน้าที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้มากที่สุด
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้บริหารระดับสูง หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้แทนปลัดกทม.ร่วมประชุม โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยประจำจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นการประชุมเพื่อติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโนบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย การบริหารราชการในระดับพื้นที่เป็นกลไกสำคัญในการนำนโยบายไปขับเคลื่อนการปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จ เกิดประโยชน์อย่างยิ่งกับพี่น้องประชาชน โดยมีแนวทางการทำงาน 7 ข้อ ได้แก่ 1.การยึดหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ในการบริหารราชการระดับพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต้องปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ตามระเบียบกฎหมายทั้งในด้านการควบคุมดูแลและการกำกับดูแล ให้เป็นไปอย่างครบถ้วน โปร่งใส ไม่ขาดตกบกพร่อง 2.ต้องรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ด้วยการแบ่งพื้นที่ดูแลรับผิดชอบอย่างชัดเจน ทั้งด้านกายภาพ ถนนหนทาง สายไฟฟ้า สายสื่อสาร ขยะในที่สาธารณะ การก่อสร้าง และปรับปรุงพร้อมทั้งดูแลรักษาให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และหากพบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ต้องเร่งแก้ไขตามอำนาจหน้าที่โดยเร็ว
3.ด้านการบริหารจัดการและการจัดการน้ำเสีย ต้องกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดำเนินการเป็นไปตามแผนที่ท้องถิ่นกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ จะเกิดปัญหา “ขยะติดเชื้อ” จากชุดตรวจ ATK และอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามมาตรการของกรมอนามัย โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องบริหารจัดการขยะเหล่านี้ตามหลักวิชาการ และเสริมสร้างความเข้าใจ ความร่วมมือของพี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะดังกล่าว 4.การบริหารจัดการสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) 5.การฟื้นฟูหลังเกิดสาธารณภัย ให้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการสำรวจและซ่อมบ้านเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบประปา เพื่อให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็วที่สุด 6.การบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขอให้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ อยากต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการสถานการณ์ และ 7.การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ในปีนี้มีจำนวนลดลง แต่ขอให้รณรงค์สร้างความตระหนัก และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 พฤติกรรมหลักที่เป็นสาเหตุ คือ การขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด และการดื่มสุราแล้วขับขี่
ด้าน นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐาน และจัดลำดับความสำคัญของการใช้งบประมาณตามแผนของท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ติดตามและสำรวจสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรที่ล้นตลาด หรือสินค้าที่มีจำนวนมากตามฤดูกาล และประสานองค์การตลาดเข้าไปรับซื้อสินค้าและบริหารจัดการจัดหาสถานที่ระบายสินค้า ส่งเสริมผู้ประกอบการโอทอป ให้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและเพิ่มมูลค่าราคาที่สูงขึ้น รวมทั้งการช่วยเหลือช่องทางการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้รายได้กลับคืนสู่ชุมชน และประสานหน่วยงานของการประปาส่วนภูมิภาคในพื้นที่ ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ การขาดแคลนน้ำ การจัดหาแหล่งน้ำ และน้ำต้นทุน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ
ด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เชิญผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ มาประชุมหารือนำสภาพปัญหามาประชุมหาทางออก รวมทั้งบรรจุในแผนพัฒนาท้องถิ่น เพื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ตามอำนาจหน้าที่ได้ และ ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดและทุกภาคส่วนที่ได้มีส่วนร่วมในการทำให้สถิติของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ลดลง
ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำการขับเคลื่อนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด โดยต้องให้ความสำคัญในการทำงานด้วยความโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล ทั้งการประเมินความโปร่งใส (ITA) ของ ป.ป.ช. และการส่งเสริมให้ข้าราชการบุคลากรมีคุณธรรมจริยธรรมในการทำงาน การบริหารจัดการงานบริหารทั่วไป เช่น การติดต่อประสานงานระหว่างกระทรวง กรม และจังหวัด การสนับสนุนการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูง เป็นต้น ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจตลาดชุมชน ตลาดท้องถิ่น ตลาดออนไลน์ ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีความพร้อม เพื่อให้ผู้ผลิตและเจ้าของตลาดได้พบปะกัน และพัฒนาตลาดไปสู่การส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งให้ความสำคัญในการลงพื้นที่ไปสร้างขวัญกำลังใจ ไปตรวจเยี่ยม จับจ่ายใช้สอยอุดหนุนผู้ประกอบการ และกำหนดแนวทางสื่อสารกับสังคมให้ได้รับรู้รับทราบ และ ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญในการตรวจติดตามการขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณเงินกู้เพื่อฟื้นฟูสถานการณ์โควิด-19 ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย