นครราชสีมาร-"สุวัจน์"ลั่นชาติพัฒนาคัมแบ็คยึดบ้านเกิดโคราชคืนตั้งเป้าได้ ส.ส.เลขสองหลัก ชี้บัตรสองใบทำให้มีโอกาสมากขึ้นได้คนที่ประชาชนต้องการอย่างแท้จริง
เมื่อวันที่ 2 ม.ค.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า พรรคได้เตรียมการเลือกตั้งครั้งหน้าไว้แล้ว ถือว่าเข้าสู่ปีที่ 4 จะเห็นว่าทุกพรรคการเมืองเริ่มมีบรรยากาศเตรียมการเลือกตั้ง ทุกคนต้องมีความพร้อม ในส่วนของพรรคชาติพัฒนาได้มีการประชุมใหญ่และแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง โดยได้เริ่มเตรียมจัดทำนโยบายต่างๆ แล้ว ถือว่ารองรับปีที่ 4 ยังไม่ทราบว่าการเลือกตั้งใหญ่จะมีขึ้นเมื่อไหร่ แต่เราก็มีความพร้อมถือว่าไม่ประมาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายพรรคการเมืองพุ่งเป้าปักหลัก จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยจะทำให้เจริญเหมือน จ.บุรีรัมย์ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นทุกพรรคการเมืองจะให้ความสำคัญกับจังหวัดที่มีฐานการเมือง จ.นครราชสีมา มีจำนวน ส.ส.รองจาก กทม. รวมทั้งสมัยหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงเขตการเลือกตั้ง ทำให้มีส.ส.มากขึ้น ตามรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไข จึงมีความเป็นไปได้ที่ จ.นครราชสีมาจะเพิ่มจำนวน ส.ส. ขึ้นมาอีก จึงเป็นพื้นที่หมายปองของทุกพรรคการเมือง ในส่วนของพรรคชาติพัฒนาได้มีการเตรียมความพร้อม เพราะเราต้องการให้พรรคชาติพัฒนากลับมา จึงต้องรักษาฐานเสียงเอาไว้ จ.นครราชสีมาถือเป็นบ้านเกิดของพรรคชาติพัฒนา และเป็นพรรคที่มีผลงานในอดีต ดังนั้นเราจึงคิดว่าต้องทำงานการเมืองให้มีฐานที่มั่นคงขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ซึ่งการเลือกตั้งครั้งหน้าใน จ.นครราชสีมา พรรคจะมีความพร้อมมากที่สุด
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งที่แล้วไม่เป็นไปตามเป้าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะปรับแผนอย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่า ต้องมีการเตรียมการ โดยเฉพาะเรื่องนโยบายและตัวผู้สมัครที่ต้องนำผู้สมัครเก่ากลับมา เมื่อถามว่า บัตรเลือกตั้งครั้งหน้าที่ใช้บัตรเลือกตั้งสองใบจะเป็นผลดีกับพรรคหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เราก็เหมือนนักกีฬา เมื่อมีกติกาก็ต้องปรับตัว ยืนยันว่า เรามีความพร้อมไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งแบบไหน การเลือกตั้งบัตรสองใบเหมือนย้อนกลับไปในอดีตและประสบความสำเร็จเราได้ที่นั่งมากพอสมควร แต่การเลือกตั้งบัตรสองใบยุทธศาสตร์จะต่างจากบัตรใบเดียว ดังนั้นการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ได้คำนวนจากความนิยมของพรรคโดยตรง แต่มาจากคะแนนของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทำให้คะแนนของพรรคเล็กบางพรรคหายไปเฉย ๆ แต่การแก้ไขเป็นบัตรสองใบทำให้เกิดความสำคัญ กับตัว ส.ส.และพรรค ทำให้พรรคต้องตั้งใจส่งคนที่ดีที่สุด รวมถึงเรื่องนโยบายต้องสำคัญที่สุด
ทั้งนี้ พรรคชาติพัฒนากำลังจัดทำแผน เพื่อเป็นนโยบายให้ประชาชนเห็นว่า ถ้ามีการเลือกตั้งประเทศชาติควรจะมีทิศทางเศรษฐกิจอย่างไร โดยผู้ที่จะมาทำนโยบายให้สำเร็จคือ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ซึ่งนโยบายและแคนดิเดตจะเป็นปัจจัยเป็นตัวตัดสินเรื่องจำนวนปาร์ตี้ลิสต์ของการเลือกตั้งในระบบบัตรสองใบ ส่วนพรรคชาติพัฒนาคาดว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า ใน จ.นครราชสีมา ต้องมากกว่าเดิม โดยภาพรวมอยากให้เป็นพรรคการเมืองที่ได้ ส.ส.เลขสองหลัก ส่วนตัวบุคคลที่จะเป็นแคดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคยังไม่ได้พิจารณา เป็นเพียงการพูดคุยกันเท่านั้น
เมื่อถามว่า นายสุวัจน์จะเป็นคนชูธงของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของบ้านเมือง ขณะนี้ตนเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคก็พยายามให้คำแนะนำกับผู้บริหารพรรคส่วนอนาคตทางการเมืองจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ตนอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ก็ทำงานการเมืองมานาน มีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งก็พร้อมจะช่วยเหลือประเทศชาติอยู่แล้ว การตัดสินใจต้องเป็นไปตามสถานการณ์