ศปถ.สรุปสถิติวันที่ 3 ของการณรงค์ดูแลความปลอดภัยทางถนนช่วง 7 วันอันตรายเสียชีวิตแล้ว เกิดอุบัติเหตุรวม 1,339 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 153 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 1,322 ราย สาเหตุหลักเมาแล้วขับ
เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี แถลงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 31 ธ.ค. 2564 เกิดอุบัติเหตุ 555 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 65 ราย ผู้บาดเจ็บ 535 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 36.40 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 34.77
สำหรับ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.41 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 80.18 ถนนกรมทางหลวง ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 36.04 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01 – 21.00 น. ร้อยละ 21.44 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 30 – 39 ปี ร้อยละ 18.38 สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (29 – 31 ธ.ค. 64) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,339 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 153 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 1,322 ครั้ง
นายบุญธรรม กล่าวว่า ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,907 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 66,969 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 369,802 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 86,358 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 24,992 ราย ไม่มีใบขับขี่ 22,518 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (26 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ อุดรธานี (5 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (23 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 40 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ (57 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (9 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (51 คน)
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ประชาชนยังคงเฉลิมฉลองและเดินทางท่องเที่ยว ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้ประสานจังหวัดปรับแผนการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินงานของด่านชุมชนและจุดสกัดตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เน้นการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงเวลา 18.01– 21.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุสูง คุมเข้มการขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ การใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกที่นั่งในรถทุกประเภท รวมถึงการสวมนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและบาดเจ็บรุนแรง อีกทั้งเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว ทางแยก ทางร่วม รวมถึงการจอดรถบนไหล่ทางที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อสร้างการสัญจรปลอดภัยมอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน