THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

25 ธันวาคม 2564 : 22:20 น.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือมอบให้กับผู้ปทนสตรีทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรม"สตรีกับการพัฒนาที่ยั่งยืน" เพื่อให้ทุกคนป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จัดกิจกรรมและบรรยายพิเศษในหัวข้อ สตรีกับการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สร้างความมั่นคงด้านอาชีพ สู่ความเข้มแข็งในชุมชน โดย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมจัดกิจกรรมและพบปะกับคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทุกระดับกลุ่มอาชีพที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ นักวิชาการพัฒนาชุมชนที่รับผิดชอบงานกองทุนฯ รวมจำนวน 800 คนจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมี นายวรงค์ แสงเมือง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน นางนวลจันทร์ ศรีมงคล ผู้ตรวจราชการกรม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมให้การต้อนรับและพบปะคณะทำงานฯ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ดร.วันดี เปิดเผยว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เป็นกองทุนที่เกิดขึ้นเพื่อให้สตรีได้เข้าถึงแหล่งทุนหรือเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูงสุดโครงการละ 200,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 0.1 ต่อปี เพื่อนำไปประกอบอาชีพ ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ หรือพัฒนาอาชีพ ผ่านการรวมกลุ่มของสตรี โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ให้การสนับสนุน เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งที่มาจากภายในกลุ่มของสตรีเอง ด้วยการเริ่มต้นกิจกรรมจากความต้องการของสตรี บริหารจัดการด้วยสตรี สตรีมีความสุข และสตรีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดจนถึงครอบครัว ซึ่งในปัจจุบันมีสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประเภทบุคคลธรรมดา 14,762,717 คน และประเภทองค์กรสตรี 67,014 องค์กร ขับเคลื่อนการบริหารเงินทุนหมุนเวียน ตามแนวทางพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ความสำเร็จของการพัฒนากองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของเรา นับตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ได้ช่วยพี่น้องสตรีทั่วประเทศในการนำทุนจากกองทุนไปพัฒนาอาชีพ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การบริหารจัดการหนี้ที่เราประสบความสำเร็จ ซึ่งในปัจจุบันคงเหลือหนี้ค้างชำระเพียงร้อยละ 13.14

ด้าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า คณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี มีบทบาทสำคัญในการเสริมกำลังเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาองค์กร คือกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และพัฒนาบุคคล คือ พี่น้องที่เป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ให้มีความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรือง เป็นกำลังสำคัญในการดูแลบริหารจัดการชุมชน ครอบครัว ให้เกิดการ Change for Good มีแต่สิ่งที่ดีเกิดขึ้น ในครอบครัว ชุมชน ตำบล หมู่บ้านของพวกเรา

จากนั้น นายสุทธิพงษ์ ได้มอบแนวทางการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี 3 ประการ ได้แก่ 1.การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีน้ำพระราชหฤทัย พระราชทานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อมอบให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 2.พี่น้องสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมีส่วนสำคัญในการร่วมสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการส่งเสริม รักษา ภูมิปัญญาผ้าไทย ด้วยการสวมใส่ผ้าไทยในทุกวัน ทุกโอกาส ซึ่งผ้าไทย หมายถึง ผ้าประจำท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาคแต่ละจังหวัด ส่งผลทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความมั่นคง เข้มแข็ง เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนผู้ประกอบการผ้าไทยให้มีรายได้ไปจุนเจือครอบครัว เงินทองของพวกเราที่ซื้อผ้าไทย ตามกำลังตามความสามารถ ก็จะหมุนเวียนสร้างรายได้ให้กับพวกเราคนไทยด้วยกัน

ประการที่ 3.ขอเชิญชวนช่วยกันดูแลเอาใจใส่มวลสมาชิกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี 3 ด้าน คือ 1) เป็นสมาชิกที่ดี มีความรัก ความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พูดคุยเป็นเพื่อนคู่คิด ปรึกษาหารือกัน และให้กำลังใจกัน ให้มีพลังในการที่จะประกอบสัมมาอาชีพ หรืออาชีพที่สุจริต มีปัญหาทุกข์ร้อนอะไรก็ช่วยเหลือเจือจานกัน 2) คุณภาพชีวิตจะดีได้ ฐานะทางเศรษฐกิจจะดีได้ ต้องส่งเสริมเรื่องการออมและการลดรายจ่าย โดยน้อมนำพระราชดำริในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานแนวทางการดำเนินชีวิต โดยใช้ประโยชน์พื้นที่รอบบ้านให้เป็นแหล่งอาหาร เป็นพื้นที่สร้างความมั่นคงด้านอาหารและเศรษฐกิจ และสุขภาพพลานามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปลูกผักสวนครัว ซึ่งนอกจากจะลดรายจ่ายแล้ว ยังทำให้สุขภาพแข็งแรง และทำให้เกิดความรักความสามัคคีของคนในครอบครัว และ 3) ผู้นำสตรี ต้องมีความรับผิดชอบเพิ่มเติมจากการดูแลสมาชิกในครอบครัว โดยต้องดูแลสมาชิกในกลุ่ม และดูแลพี่น้องประชาชนในหมู่บ้าน ให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ให้รู้จักทำมาหากิน ประหยัด ลดรายจ่าย ด้วยการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร แสดงความรักชาติ รักษาประเพณี วัฒนธรรมความเป็นไทย

"สิ่งสำคัญที่สุด พวกเราต้องเป็นแกนนำของพี่น้องประชาชนในตำบล หมู่บ้าน ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ "จิตอาสา" สะท้อนถึงความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระผู้ทรงเป็นที่รักของพวกเราคนไทย ซึ่งการเป็นจิตอาสา ไม่ต้องแต่งเครื่องแบบ ไม่ต้องประกาศว่าฉันเป็นจิตอาสา แต่สะท้อนโดย "การกระทำ" จิตอาสาสามารถทำได้ทุกวัน อันจะทำให้เกิดสิ่งที่ดี หรือ Change for Good ให้เกิดความรัก ความสามัคคี ในหมู่บ้าน/ชุมชนของเรา" นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นอกจากนั้น ปลัดกระทรวงมหาดไทย และประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้มอบช่อดอกไม้ จำนวน 34 ช่อ ให้กับจังหวัดที่มีการบริหารจัดการหนี้ดีเด่น พร้อมร่วมกับคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทุกจังหวัดขับร้องบทเพลงศรัทธา เพลงบ้านเกิดเมืองนอน และเพลงรักกันไว้เถิด เพื่อเป็นการขอบคุณและสร้างขวัญกำลังใจให้กับคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทุกจังหวัด พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณการแต่งกายผ้าไทยเป็นทีมดีเด่นให้กับคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่สวมใส่ผ้าไทยอย่างพร้อมเพรียง

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ