THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

23 ธันวาคม 2564 : 14:59 น.

ทางการกัมพูชาส่งกลับ 39 ผู้ต้องหาคนไทยแก๊งใหญ่คอลเซ็นเตอร์ที่ถูกจับกุมกลางกรุงพนมเปญ ผบ.ตร.สั่งด่วนให้สตม.รับตัวดำเนินคดีต่อพร้อมสั่งขยายผลถึงแก๊งชาวจีนคนบงการ

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบก.สส.สตม.) ในฐานะหัวหน้าชุดเทคนิคและสืบสวนที่ 1 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาชาวไทยจำนวน 39 คน และคนจีนที่เป็นผู้บงการที่ถูกตำรวจไทยและกัมพูชาบุกจับกุมได้ที่กรุงพนมเปญและเมืองสีหนุวิลล์ว่า ได้ร่วมประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการกัมพูชาเพื่อหารือเรื่องการดำเนินคดีกับคนไทยที่ถูกจับกุมตัว ได้ข้อสรุปว่าเจ้าหน้าที่จะส่งตัวคนไทยทั้งหมดกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยผ่านทางด่านชายแดน จ.สระแก้ว ซึ่งได้ทยอยส่งตัวแล้วเมื่อช่วงสายของวันนี้ เมื่อมาถึงผ่านพิธีการเข้าเมืองจะต้องกักตัวตามมาตรการสาธารณสุข จากนั้น จะดำเนินการสอบสวนรายบุคคลคน เพื่อคัดแยกการกระทำความผิดและดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้ สตม.ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดพร้อมขยายผลในทุกมิติ เพื่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทุกคน

ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่าคนไทยทั้งหมดลักลอบเดินทางออกจากเมืองไทยทางช่องทางธรรมชาติโดยผิดกฎหมาย ไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยผ่านนายหน้าซึ่งเชื่อว่ามีนายทุนใหญ่เป็นคนจีนที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ในกัมพูชา หากสอบสวนพบการกระทำความผิดใดก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าก่อความเสียหายให้กับคนไทยจำนวนมากรวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท สำหรับ นายพยัคฆพล ชิงหลู่ อายุ 30 ปี ที่มีหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงต้นเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันฟอกเงินนั้น ถือเป็นตัวการใหญ่ที่ทำหน้าที่โอนเงินผ่านบัญชีต่างๆให้กับขบวนการนี้ เบื้องต้นได้อายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว และจะดำเนินการยึดทรัพย์ตามขั้นตอนของ ป.ป.ง. ต่อไป

“สำหรับการขยายผลไปถึงคนจีนที่อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งคนชาติอื่นๆ ที่ชุดจับกุมพบในที่เกิดเหตุนั้น ทางการกัมพูชาได้ประสานงานให้ตำรวจไทยรวบรวมพยานหลักฐานประสานงานระหว่างประเทศ เพื่อดำเนินคดีให้เด็ดขาด เพราะกัมพูชาก็กังวลเรื่องชาวต่างชาติมาใช้ประเทศกัมพูชาเป็นฐานกระทำความผิด จึงอยากให้ไทยช่วยส่งหลักฐานทั้งหมดเพื่อดำเนินการต่อไป” พล.ต.ต.พันธนะ กล่าว

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ