โฆษกประจำสำนักนายกฯเผยช่วงวันหยุดยาวภาพรวมท่องเที่ยวภายในประเทศกลับมาคึกคัก มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ภาคท่องเที่ยวแล้วกว่า 5 พันล้าน ยันรัฐบาลยังคุมเข้มการระบาดโควิด

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ ระหว่างวันที่ 10 - 12 ธ.ค.ภาพรวมท่องเที่ยวภายในประเทศไทยกลับมาคึกคัก มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ภาคท่องเที่ยวแล้วกว่า 5 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากอากาศเย็นลงในหลายพื้นที่ และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ผ่านโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3"  ทำให้อัตราการเข้าพักในโรงแรม/ที่พัก สูงขึ้นในหลายพื้นที่ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ อัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นร้อยละ 10   การเดินทางท่องเที่ยว 217,400 คน/ครั้ง สร้างรายได้ 690 ล้านบาท

ภาคกลาง อัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นร้อยละ 44 เดินทางท่องเที่ยว 458,300 คน/ครั้ง รายได้หมุนเวียน 1,010 ล้านบาท ภาคตะวันออก มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เดินทางท่องเที่ยว 362,000 คน/ครั้ง รายได้หมุนเวียน 1,400 ล้านบา ภาคเหนือ อัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นร้อยละ 41 เดินทางท่องเที่ยว  272,500 คน/ครั้ง รายได้หมุนเวียน 1,310 ล้านบาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นร้อยละ 49 เดินทางท่องเที่ยว  447,000 คน/ครั้ง รายได้หมุนเวียน 860 ล้านบาท และภาคใต้ อัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้น 8 เดินทางท่องเที่ยว   83,600 คน/ครั้ง รายได้หมุนเวียน 450 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการในหลายกิจการ/กิจกรรม ได้รับมาตรฐาน SHA / SHA+  สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวในการเดินทาง มีการตรวจคัดกรอง จัดสถานที่แบบเว้นระยะห่าง วัดอุณหภูมิ และสวมใส่หน้ากากอนามัย

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ มีจำนวน  3,787 ราย  แยกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 3,782 ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 5 ผู้ป่วยสะสม 2,139,783 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 5,606 ราย หายป่วยสะสม 2,068,433 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 51,616 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 20 ราย

นายธนกร กล่าวว่า ไทยต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีฝากกำชับยังผู้ประกอบการท่องเที่ยว ศูนย์การค้า  ร้านค้า ร้านอาหาร ปฏิบัติตามมาตรการ ศบค.อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดหรือคลัสเตอร์ที่มาจากภาคการท่องเที่ยว ภาคบริการ และในวันพรุ่งนี้ (13 ธ.ค. 64) ที่ประชุม ศบค. คาดว่า จะมีการหารือเพิ่มเติมสำหรับปรับมาตรการเข้า -ออก ประเทศ และการจัดงานรื่นเริงช่วงเทศกาลปีใหม่งาน โดยทุกกิจกรรมขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกฝ่ายปฏิบัติตามข้อกำหนด ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังเห็นคนไทยทุกคนได้ เฉลิมฉลองในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ อย่างมีความสุขและปลอดภัย