กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายแรกในไทยแล้ว เป็นชาวอเมริกันที่เดินทางมาจากประเทศสเปน ขณะนี้กรมควบคุมโรคเข้าสอบสวนโรค
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงว่า ได้รับตัวอย่างของผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโอไมครอนตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.จึงได้ดำเนินการตรวจทางห้องปฏิบัติการตามขั้นตอน พบว่าโอกาสที่ผู้ติดเชื้อรายนี้จะติดเชื้อโอไมครอน 99.92% ซึ่งถือว่าค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นรายแรกที่พบในไทย อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญจะมีการตรวจซ้ำเพื่อยืนยันต่อไป
ทั้งนี้ เทคนิคการตรวจสายพันธุ์ไวรัสก่อโรคโควิด-19 จะมี 3 วิธีทดสอบ คือ 1.RT-PCR โดยใช้น้ำยาพิเศษแต่ละสายพันธุ์โดยตรง ใช้เวลา 1-2 วัน โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่งทั่วประเทศดำเนินการได้ 2. Target sequencing เป็นการดูรหัสพันธุกรรมว่าเหมือนชนิดใดใช้เวลา 3 วัน และ3.Whole genome sequencing เป็นการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว ใช้เวลา 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่มีน้ำยาเฉพาะที่จะตรวจหาสายพันธุ์ใหม่โอมอครอนด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งใช้เวลาเร็วที่สุด 1-2 วัน จะต้องใช้เวลาพัฒนาอีก 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้พัฒนาเทคนิคการตรวจหาโอมิครอนให้ได้โดยเร็วในระหว่างที่ยังไม่มีน้ำยาเฉพาะ เพื่อให้ศูนย์วิทย์ทั่วประเทศสามารถตรวจสายพันธุ์โอมิครอนได้รวดเร็ว โดยจากการวิเคราะห์ พบว่า โอมิครอน มีจุดกลายพันธุ์ HV69-70deletion ที่เหมือนกับอัลฟา และจุด K417N ที่เหมือนกับเบตา กรมจึงเอาคุณสมบัตินี้มาพัฒนาเทคนิคในการตรวจสายพันธุ์โอมิครอน โดยนำตัวอย่างที่ได้จากผู้เดินทางเข้าประเทศไทยและตรวจพบติดโควิดทุกรายมาตรวจด้วยน้ำยา2 ตัว คือ น้ำยาเฉพาะตรวจหาสายพันธุ์อัลฟา และ น้ำยาเฉพาะตรวจหาสายพันธุ์เบตา หากตรวจพบจากน้ำยาของอัลฟาและเบตาทั้ง 2 น้ำยาให้รายงานเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ศูนย์วิทย์รายงานการตรวจสายพันธุ์โอมิครอนได้เร็วใน 1-2 วันในระหว่างที่ยังไม่มีน้ำยาเฉพาะตรวจโอมิครอน แทนที่จะต้องใช้วิธีดูรหัสพันธุกรรมที่ใช้เวลา 3 วันหรือถอดรหัสทั้งตัวที่ใช้เวลา 1สัปดาห์