THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

04 ธันวาคม 2564 : 11:35 น.

ปภ.รายงานสถานการณ์น้ำท่วมทั่วไทยเหลือ 7 จังหวัดประสานดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.เวลา 09.30 น.กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด โดยในห้วงวันที่ 23 พ.ย. - 4 ธ.ค. 64 พื้นที่ภาคใต้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และนราธิวาส) รวม 30 อำเภอ 135 ตำบล 855 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,572 ครัวเรือน ภาพรวมระดับน้ำลดลง ขณะที่สถานการณ์จากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 4 ธ.ค. 64 ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 จังหวัด (สุพรรณบุรี นครปฐม) รวม 5 อำเภอ 68 ตำบล 575 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,421 ครัวเรือน ภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เร่งระบายน้ำ และให้การช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ในห้วงวันที่ 23 พ.ย. - 4 ธ.ค. 64 ทำให้ภาคใต้ มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พัทลุง สงขลา ตรัง และนราธิวาส รวม 60 อำเภอ 236 ตำบล 1,109 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,164 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และนราธิวาส รวม 30 อำเภอ 135 ตำบล 855 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,572 ครัวเรือน ดังนี้

1.ชุมพร มีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งตะโก อำเภอสวี อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ และอำเภอละแม รวม 34 ตำบล 272 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,730 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

2.สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอพุนพิน อำเภอบ้านนาสาร อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอเกาะพะงัน และอำเภอเกาะสมุย รวม 38 ตำบล 221 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,629 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาบอน อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอชะอวด อำเภอทุ่งสง อำเภอบางขัน อำเภอช้างกลาง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอถ้ำพรรณรา อำเภอพิปูน อำเภอสิชล และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ รวม 48 ตำบล 313 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 17,978 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

4.พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขาชัยสน อำเภอป่าพยอม และอำเภอเมืองพัทลุง รวม 9 ตำบล 32 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง

5.นราธิวาส น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอยี่งอ รวม 6 ตำบล 17 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 235 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 4 ธ.ค. 64 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี และนครปฐม รวม 5 อำเภอ 68 ตำบล 575 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,421 ครัวเรือน โดยภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ลุ่มต่ำ ดังนี้

1.สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า รวม 28 ตำบล 240 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,015 ครัวเรือน

2.นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี และอำเภอสามพราน รวม 40 ตำบล 335 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,406 ครัวเรือน

สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ