กรมสวนคดีพิเศษเร่งประสานขนส่งทางบกเอาผิด 114 บริษัทลักลอบนำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษี 854 คัน ขีดเส้น 4 เดือนคดีคืบเอาภาษีคืนรัฐได้ 2,600 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพืเศษ(ดีเอสไอ) แถลงภายหลังการประชุมแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินคดีพิเศษ กรณีรถยนต์นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเลี่ยงภาษีที่ค้างเป็นคดีพิเศษ ทั้งหมด 1,428 คันว่า เป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของคณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษทั้ง 10 ชุด จำนวน  854 คัน จาก 114 บริษัทนำเข้าทั้งหมดเป็นรถหรูเลี่ยงภาษีนำเข้าจากประเทศอังกฤษ เป็นนิติบุคคล 113 ราย และ บุคคลธรรมดา 1 ราย ซึ่งกรมศุลกากรได้ประเมินภาษีรถยนต์ส่วนที่ขาดแล้วมูลค่าความเสียหายกว่า 2,599 ล้านบาท เป็นภาษีกรมศุลกากร , ภาษีสรรพสามิต , ภาษีมหาดไทย และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีทั้งหมด 17 ยี่ห้อ โดยเป็นรถที่ลักลอบนำเข้ามาในช่วงงปี พ.ศ.2555-2557  

รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า คณะทำงานซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจะแบ่งเป็น 10 ทีม แต่ละกลุ่มจะทำหน้าที่ตรวจสอบ รถยนต์จำนวน 83 คัน 12-13 บริษัท เพื่อเร่งรัดให้สอบสวนเสร็จสิ้นตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดภายใน 4 เดือนที่เหลืออยู่ และจะประสานข้อมูลกับกรมขนส่งทางบกเพื่อนำหลักฐานการจดทะเบียนชื่อผู้ครอบครอง จากนั้นจะแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทผู้นำเข้าทั้ง 114 ราย และส่งฟ้องอัยการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนรถหรูอีก 574 คัน เป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์ปฎิบัติการพิเศษภาค

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้กองปฎิบัติการคดีพิเศษภาค ดีเอสไอได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอถอนอายัดรถหรูเลี่ยงภาษีจำนวน 20 คัน หรือ 20 คดี มูลค่าความเสียหายต่อรัฐ 496 ล้านบาท หลังจากดีเอสไอถอนอายัด รถยนต์ได้โอนเปลี่ยนมือเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองไปแล้วจำนวน 10 คัน