รมว.สาธารณสุขชงศบค.เปิดประเทศเฟซ 2 ศุกร์นี้ซัดสถานบันเทิงลักลอบเปิดส่อทำประเทศวิบัติอัดยับลอบทำผิดกฎหมายนำมาสู่ความสูญเสียจี้มีสำจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 26 พ.ย. กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอมาตรการเปิดประเทศระยะที่ 2 หลังจากเดือน ธ.ค. น่าจะมีมาตรการผ่อนคลายประเทศให้มีความสะดวกมากขึ้น เช่น การใช้ ATK มากขึ้น เมื่อเดินทางมาที่ประเทศไทยไม่ต้องตรวจแบบ RT-PCR แต่ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค. ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบในเรื่องดังกล่าวไปก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ยุโรปมีการล็อกดาวน์กันหลายประเทศ กระทรวงสาธารณสุขต้องเตรียมพร้อมอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มาตรการของยุโรปไม่เหมือนของไทย เช่นเรายังไม่เปิดดูฟุตบอลในสนาม 5-6 หมื่นคน อัตราการฉีดวัคซีนของเราก็สูงกว่า ดังนั้นจึงนำมาเทียบกันไม่ได้ อย่างการเข้าประเทศของเราก็เข้มข้น ทำให้มั่นใจว่า หากไม่ใช่ลักลอบเข้าเมืองอย่างไรก็ตรวจสอบเจอเพื่อเข้าสู่การรักษา โดยงบประมาณเราก็ไม่ต้องเสีย เพราะเขามีประกันสุขภาพแต่หากเราจะล็อกทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดเคสเลย แต่ทำอะไรไม่ได้เลย ผู้คนทำมาหากินไม่ได้ เศรษฐกินเดินไม่ได้ มันก็ไม่ได้ เราต้องหาวิธีการที่ทุกมิติเดินไปได้
เมื่อถามว่า ผับบาร์ คาราโอเกะ จะผ่อนคลายอย่างไร หลังผู้ประกอบการเรียกร้องขอให้เปิดวันที่ 1 ธ.ค.นี้ นายอนุทิน กล่าวว่า เราขอให้ดำเนินการมาตรการโควิดฟรีเซ็ตติ้ง ให้ผู้ประกอบการฉีดวัคซีนให้พนักงาน ตรวจสอบลูกค้าต้องฉีดวัคซีนให้ครบโดสก่อนเข้าร้าน หากทำได้เราก็พร้อมผ่อนคลาย แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่ไปร้านที่ไหนยังเห็นคนไม่ฉีดวัคซีน หากพนักงานไม่ฉีดวัคซีนถือว่าน่ากลัวมาก เป็นสิ่งที่ตนขอให้กรมควบคุมโรค กรมอนามัย เร่งทำความเข้าใจให้มีมาตรการตรงนี้ให้เข้มข้นที่สุด ไม่เช่นนั้นจะขยับลำบาก เมื่อถามถึง นายกรัฐมนตรีแสดงความกังวลมีคลัสเตอร์สถานบันเทิงเกิดขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯกังวลมาก ทั้งที่เรื่องความเสี่ยงติดเชื้อ เรื่องทำมาหากิน ท่านสั่งการมาตลอด มียาอะไรดีๆก็บอกให้เร่งจัดหาให้ได้ และวันนี้เพิ่งเซ็นสัญญาซื้อวัคซีน และ ยา เพิ่มเข้ามา ทำให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลในการตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ และ ประชาชนจะได้เร่งกลับมาทำมาหากินในทุกมิติ
เมื่อถามว่า มีสถานบันเทิงแอบเปิดใจกลางเมืองกรุง กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีคลัสเตอร์ ทุกครั้งที่มีการระบาดใหญ่ ทุกครั้งที่มีความสูญเสีย มันไม่ได้มาจากการทำกระทำที่ถูกกฎหมาย ส่วนใหญ่มาจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย ลับลอบกระทำในสิ่งที่รัฐได้พยายามขอร้องให้ปฏิบัติตาม ตรงนี้เป็นเรื่องสำนึก และสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องเร่งไปจัดการให้เรียบร้อย ถ้าผู้คนให้ความร่วมมือเหมือนช่วงนี้ของปีก่อน ประเทศไทยเราไม่มีผู้ติดเชื้อ และตายมาตั้ง 6 เดือน พอมีการทำผิดกฎหมาย เสี่ยงกฎหมายเมื่อไหร่ ความวิบัติอะไรต่างๆ ก็ตามมา รัฐพยายามให้มีมาตรการทุกเรื่องเพื่อความสะดวก แต่ถ้ามีคนทำนอกมาตรการก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดายโอกาสต่างๆ เกิดเหตุอะไรขึ้นมา ก็ต้องมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นไปเพื่อแลกกับความปลอดภัย โดยเราพยายามทำให้ดีที่สุด