THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

22 พฤศจิกายน 2564 : 15:30 น.

ผู้ช่วยโฆษกศบค.ระบุยอดผู้เสียชีวิตจากติดเชื้อโควิด 49 รายในวันนี้เป็นผู้ป่วยใหม่และไม่ได้ฉีดวัคซีนทำให้ทรุดเร็ว สั่งจับตา เชียงใหม่,เชียงราย,พิษณุโลก,สิงห์บุรี และ ลำพูน แนวโน้มติดเชื้อสูง

เมื่อวันที่ 22 พ.ย.พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค.มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดเพิ่ม 49 รายในวันนี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมที่ 20,342 ราย โดยผู้เสียชีวิตพบว่ามีอัตราครองเตียงเพียง 10 วัน สะท้อนว่าเป็นผู้ป่วยใหม่และไม่ได้ฉีดวัคซีน ทำให้มีอาการป่วยหนักอย่างรวดเร็วและเสียชีวิต ผู้ที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ จำนวน 382 ราย เหลือผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ อัตราการตรวจอาร์ทีพีซีอาร์ อยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นรายต่อวัน ขณะที่การตรวจเชื้อแบบเอทีเคอยู่ที่ประมาณ 3-4% ของทั้งประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อแยกเป็น พื้นที่ กทม.และปริมณฑล พบว่าผลตรวจเอทีเคมีทิศทางที่ลดลง ส่วนการเฝ้าระวังจังหวัดที่ต้องจับตามอย่างใกล้ชิด กลุ่มแรก เป็นจังหวัดที่ติดเชื้อเกิน 100 รายต่อวัน และผลตรวจเอทีเคมากกว่า 5% ได้แก่ จ.สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช บางจังหวัดเป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวด้วยจึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ขณะที่บางจังหวัดแม้จะมีตัวเลขติดเชื้อไม่สูงมากในจำนวนที่ต่ำกว่า 100 รายต่อวัน แต่ดูทิศทางในช่วง 7 วัน และ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก สิงห์บุรี และ ลำพูน เป็นจังหวัดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

สำหรับผู้เสียชีวิตวันนี้เป็นกลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรังในอัตรา 93% มีเด็กอายุ 14 ปี จ.ปัตตานี ที่เสียชีวิตและไม่ได้ฉีดวัคซีน และคงต้องเน้นย้ำผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุ 12-17 ปี โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่มีวัคซีนไฟเซอร์ ควรช่วยกันรณรงค์พาบุตรหลานไปฉีดวัคซีน รวมทั้งผู้ป่วยติดเตียงมีเสียชีวิต 1 ราย จึงต้องเน้นย้ำบางพื้นที่ที่คิดว่ามีผู้ติดเชื้อน้อยและผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหน แต่เนื่องจากมีการเปิดประเทศและมีการเดินทางข้ามพื้นที่ อาจมีการสัมผัสกับบุคคลที่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงได้ จึงขอความร่วมมือให้พาผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีน” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า ส่วนการฉีดวัคซีน หากพนักงานในสถานประกอบการใดยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แนะนำว่าควรให้พนักงานไปรับวัคซีนโดยด่วน หากมีการรับพนักงานใหม่ควรสอบถามว่าได้รับการฉีดวัคซีนแล้วหรือยังด้วย โดยเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการฉีดวัคซีนไป จำนวน 185,639 โดส มียอดฉีดวัคซีนสะสมเข็มที่ 1 จำนวน 46,718,041 ราย คิดเป็น 64.9% เข็มที่ 2 จำนวน 39,202,716 ราย คิดเป็น 54.4% เข็มที่ 3 จำนวน 3,068,505 ราย คิดเป็น 4.3 % รวมฉีดวัคซีนสะสมทั้งประเทศจำนวน 88,989,235 โดส ทั้งนี้ มีบางจังหวัดรายงานมาว่าหาคนไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ยากมาก ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งถือเป็นความผิดชอบต่อชุมชนและสังคมที่ท่านอยู่อาศัยด้วย ซึ่งการจะเปิดประเทศให้ปลอดภัย

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ