ตำรวจปูพรมตรวจค้น 13 จุด ในพื้นที่ 10 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหา 11 ราย มีภาพลามกของเด็กไว้ในครอบครองและทำการอัพโหลดลงโซเชียล เตรียมกวาดล้างใครมีไว้ภาพลามกเด็กไว้ในครอบครองจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบตร. ในฐานะ รองผอ. ศพดส.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข ผบช.ประจำสำนักงานผบ.ตร. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผบช.สตม. พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รองผบช.ก. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบช.น. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ ผบก.ปคม. พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 นางนันทา ไวคกุล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายโอภาส ภูครองนาค ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานขับเคลื่อนการส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการใช้สื่อออนไลน์ (COPAT) ตัวแทนแทนมูลนิธิ HUG project และตัวแทน NGO ต่างๆ ร่วมกันแถลงผลการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต (Thailand Internet Crimes Against Children -TICAC Task Force) และศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศพดส.ตร. ในปฏิบัติการกวาดล้างและจับกุมการล่วงละเมิดทางเพศทางอินเตอร์เน็ตและค้ามนุษย์ เข้าตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต และค้ามนุษย์
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผยว่า หลังได้รับการร้องเรียนผ่านหน่วยงานของรัฐและจาก โซเชียล มีเดีย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศพดส.ตร ได้สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปูพรม ตรวจค้นเป้าหมาย 13 เป้าหมาย ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่เชียงราย นครสวรรค์ ยโสธร ขอนแก่น พัทลุง ชลบุรี อุทัยธานี ปทุมธานี นนทบุรีและกรุงเทพฯ สามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้จำนวน 11 คน มีของกลางเป็นภาพลามกอนาจารเด็กอยู่ในมือถือ iPad และคอมพิวเตอร์ ผู้ต้องหามีไว้เพื่อสำหรับส่งต่อและอัพโหลดขึ้นในโซเชียลมีเดียต่างๆ ดำเนินคดีผู้ต้องหาในข้อหามีสื่อลามกอนาจารเด็กไว้ในครอบครองเพื่อแสวงประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเอง โดยผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่ามีการส่งต่อภาพโป๊ของเด็ก 500 กว่าภาพภายในเวลา 1 นาที ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลต่อไปถึงตัวผู้กระทำความผิดตามนโยบายของ พล.ต.อ.รอยที่จะเป็นการตัดวงจรนำไปสู่กระบวนการค้ามนุษย์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะทำการปูพรมตรวจค้นอีกหลายจังหวัด ในหลายท้องที่ หากใครมีภาพโป๊อนาจารของเด็กไว้ในครอบครองจะต้องมีความผิดตามกฎหมาย และหากนำส่งต่อหรืออัพโหลดต้องถูกดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์กล่าวว่า สำหรับพฤติกรรมการกระทำความผิดของผู้ต้องหา มีทั้งที่ไปร่วมประเวณีกับเด็กแล้วแอบถ่ายภาพคลิป เก็บไว้เพื่อนำเอาไปอัพโหลดในกลุ่มเฉพาะและเรียกเก็บเงินเป็นค่าสมาชิก หรือบางคนใช้เป็นการแบล็คเมล์เด็ก รวมถึงมีพฤติกรรมที่เด็กชักชวนให้เพื่อนถ่ายคลิปส่งและมีการแบล็คเมล์กันในภายหลัง ซึ่งการครอบครองสื่อลามกเด็กเหล่านี้มีความผิดตามกฎหมาย แม้จะไม่ได้อัปโหลดก็ตาม ที่ผ่านมาใน 1 ปีมีคดีที่เป็นความผิดลักษณะนี้นับแสนคดี เป็นจุดเปราะบางที่นำไปสู่กระบวนการค้ามนุษย์ได้ ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ผู้กระทำความผิดเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยเพื่อแสวงประโยชน์กับเด็ก ต้องถูกทางการบล็อกไม่ให้เข้ามาในประเทศ แต่จากสถานการณ์โควิดในปัจจุบันทำให้ผู้กระทำความผิดกลับกลายเป็นคนไทยในประเทศเอง เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ต้องดำเนินการกดขันจับกุม
ด้านนางนันทากล่าวว่า ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ความสำคัญในเรื่องนี้แก่เด็กโดยเฉพาะสื่อออนไลน์จึงมีการแบ่งประเภทในการดูแลออกเป็น 2 ส่วน ทั้งในเรื่องการส่งเสริมสภาเด็กและเยาวชนให้น้อง ๆ จัดทำสื่อการสอนให้ความรู้แก่เด็กๆในพื้นที่ ในส่วนที่ 2 คือการป้องกันคุ้มครอง มีบ้านพักเด็กและครอบครัวในการพัฒนา อบรมองค์ความรู้ ซึ่งแนวทางปฏิบัติในการดูแลนั้นเพื่อให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองและเด็ก รู้เท่าทันสื่อออนไลน์ ให้เด็ก ๆ อยู่ในโลกออนไลน์อย่างปลอดภัย
นายโอภาสกล่าวว่า การเฝ้าระวังปัญหาทางออนไลน์ ได้ทำการประสานกับบ้านพักเด็ก 77 แห่งทั่วประเทศ โดยมีการประสานเพื่อส่งต่อเคส เพื่อให้เด็กได้รับสวัสดิภาพ สำหรับการเผยแพร่ภาพลามกในโลกออนไลน์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างทันทีและรวดเร็ว ฉะนั้นพ่อ แม่ ผู้ปกครองของเด็กต้องเฝ้าระวังลูก ๆ หากพบปัญหาหรือพบการกระทำความผิดสามารถโทรแจ้งได้ที่ 1300 จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและทำหน้าที่ประสานในการช่วยเหลือ ประสานการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.