THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

04 พฤศจิกายน 2564 : 20:42 น.

ปลัดมหาดไทยมอบนโยบายประจำปีให้ผู้ว่าฯทั่วประเทศนำไปปฎิบัติ เน้นภารกิจ

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจำปี 2565 โดยมี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ กระทรวงมหาดไทย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยตนมีแนวคิดในการขับเคลื่อนงานว่า “Change for good” หมายถึง การจะสร้างสิ่งดีให้เกิดขึ้น ต้องเป็นเป้าหมายที่สำคัญของชีวิตทุกคน ใครที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ ไม่ว่าจะอยู่ภาคส่วนไหน และมีจิตอาสาช่วยงาน เมื่อทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมก็จะเกิดสิ่งดีและมีค่าแก่สังคม โดยการดำเนินงาน ได้แก่ เรื่องแรก คือ การขับเคลื่อนดำเนินงาน กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชปณิธาน ให้สังคมไทยของเราเป็นสังคมแห่งความรัก เสียสละ เช่น โครงการจิตอาสาพระราชทาน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความเสียสละ ไม่มีผลตอบแทน โดยส่งเสริมบทบาทจิตอาสาภาคประชาชน และเสริมสร้างการรับรู้ความเข้าใจ บทบาทของจิตอาสาประเภทต่าง ๆ อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม “จิตอาสาคู คลอง” ต้องทำทันทีทำต่อเนื่อง เพื่อคืนสภาพแม่น้ำลำคลองให้ใสสะอาด สวยงาม ตามพระบรมราโชบายในการสืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาราษฎร เรื่องถัดมา คือ การขับเคลื่อนกิจกรรมโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง เพื่อพัฒนาผู้ต้องขังที่กำลังจะพ้นโทษของกรมราชทัณฑ์ ให้ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตก่อนออกมาใช้ชีวิตในสังคม โดยประสานกับผู้บัญชาการเรือนจำในพื้นที่ในการจัดระบบจัดเก็บข้อมูลของผู้ผ่านการฝึกอบรมโครงการ โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง ให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษได้มีอาชีพ เป็นการคืนคนดีให้กับสังคม

ทั้งนี้ ในปี 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระชนมพรรษาครบ 70 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงมีพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติของพระองค์ท่าน ขอให้ทุกจังหวัดร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ด้วยการสำรวจสถานที่ที่พระองค์ได้ปฏิบัติพระราชกรณีกิจทรงงานให้กับประชาชนทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสดังกล่าว รวมไปถึงการบำรุงรักษาสถานที่ตั้งแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ให้เป็น Landmark สำคัญของจังหวัด ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เพื่อทำให้คนในท้องถิ่นหวงแหน ดูแลรักษาให้สวยงาม สะอาด เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อเป็นการปฏิบัติบูชาแด่พระองค์ท่าน

นอกจากนี้ ให้พิจารณาจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในวาระต่าง ๆ เพื่อร่วมกันสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าในพระบรมราชินูปถัมภ์ ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนต่อไป ประการต่อมา ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ส่งเสริมการจัดการศึกษาของเด็กนักเรียนทั้งในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนา “ทักษะมือ” ตามพระราชดำริในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งเรื่องงานฝีมือ การทำอาหาร เลี้ยงปลา เลี้ยงกบ รวมไปถึงร่วมกันส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขับเคลื่อนการดำเนินงาน “ศูนย์พักพิงสุนัขจรจัด” ตามพระดำริในสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อส่งเสริมการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องขอความร่วมมือดำเนินการเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในด้านการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ ขอให้ทุกจังหวัดรวบรวมผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่ดีขึ้นในพื้นที่รายงานมายังส่วนกลาง เพื่อรายงานไปยัง ศบค.ต่อไป และการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนคนไทย และชาวต่างด้าวที่พักอาศัยในประเทศไทย ขอให้นำแอปพลิเคชัน jitasa.care ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่เกิดจากแรงบันดาลในของจิตอาสา ไม่มีค่าใช้จ่าย มาเป็นเครื่องมือในการสำรวจผู้ได้รับวัคซีน และผู้ที่ประสงค์จะรับวัคซีนแต่ยังไม่ได้ฉีด โดยให้อาสาสมัครในพื้นที่ ทั้ง อสม. อปพร. และจิตอาสาในพื้นที่ช่วยกันสำรวจและลงบันทึกข้อมูลในระบบดังกล่าว จะทำให้มีข้อมูลในการบริหารระดับพื้นที่ รวมถึงเป็นข้อมูลในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ของ ศบค. ในภาพรวมได้อีกด้วย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวย้ำว่า การสื่อสารกับสังคมเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการบริหารงานของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ รวมถึงทุกหน่วยงานในระดับพื้นที่ ที่ผ่านมาทุกคนทำงานกันอย่างหนัก แต่ขาดการสื่อสารกับสังคม จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเน้นย้ำและกำชับข้าราชการทุกระดับในพื้นที่ สื่อสารสังคม สร้างการรับรู้ความเข้าใจเพื่อให้เกิดความร่วมมือของพี่น้องประชาชนในการร่วมขับเคลื่อนงานบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ของกระทรวงมหาดไทย

นอกจากนี้ ขอให้รณรงค์สวมใส่ผ้าไทย โดยให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2563 ในการส่งเสริมให้ข้าราชการ ประชาชน แต่งกายด้วยผ้าไทยตามความเหมาะสมของท้องถิ่นเพิ่มขึ้น หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรณรงค์เชิญชวนให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่สวมใส่ผ้าไทยที่เป็นภูมิปัญญาของคนในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง และร่วมกันหาโอกาสสวมใส่ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี เพื่อร่วมสืบสานพระปณิธานในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ประกอบอาชีพทอผ้าในทุกภูมิภาค สานต่อพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่งในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทย คือ การแก้ไขปัญหาความยากจน โดยใช้แนวทางการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Economy model) โดยน้อมนำหลักการเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา มาเสริมสร้างความเข้าใจและเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมโครงการ ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าว จะทำให้พื้นที่ของประชาชนเป็นพื้นที่ที่มั่นคง ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้โดยปลอดภัยจากสาธารณภัย ภัยแล้ง หรือวาตภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

นอกจากนั้น ให้เร่งรัดดำเนินการ ตามนโยบายของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในด้านการแก้ไขปัญหาด้านสาธารณภัย โดยบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่ ระดมสรรพกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เยียวยา ทำให้ชาวบ้านรู้สึกดี รวมถึงให้จัดทำคลินิกสาธารณภัยเพื่อช่วยเหลือประชาชน และเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจกับประชาชนในการดำเนินการบูรณาการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐและทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ ด้านการบริหารงานปกครองท้องที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะนายกรัฐมนตรีของจังหวัด ต้องมอบหมายและเน้นย้ำให้นายอำเภอขับเคลื่อนการทำงานโดยให้ความสำคัญกับงานของทุกกระทรวง และกรม ในระดับพื้นที่ เพราะงานของทุกส่วนราชการที่ลงไปสู่พื้นที่ถือเป็นภารกิจของนายอำเภอด้วย ไม่ว่างานการพัฒนา หรืองานใดที่ช่วยทำให้ชาวบ้านมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ยากไร้ ผู้ไม่มีจะกิน กลุ่มเปราะบาง นายอำเภอและปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบประจำตำบลต้องบูรณาการความร่วมมือขององคาพยพที่อยู่ในท้องถิ่น ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (อช.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้เป็นกำลังสำคัญในการที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อนงานบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ประชาชน โดยผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ต้องฝึกข้าราชการทุกระดับในพื้นที่เขียนข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์สื่อสารกับสังคมให้เกิดความสุข และพลังแห่งการมีส่วนร่วม ความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ