รองผู้ว่าฯกทม.นำคณะชุดใหญ่ตรวจความพร้อมสนามบินสุวรรณภูมิและโรงแรมที่พักสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวและคนกรุงเทพฯ ยันพื้นที่กทม.พร้อม100% รับเปิดเมือง
เมื่อวันที่ 25 ต.ค. พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้ว่าฯกทม. พร้อมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผู้แทนหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่สำรวจการเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park เขตคลองเตย
ทั้งนี้ ได้มีการตรวจการเตรียมพร้อมบริเวณจุดตรวจ Scan QR Code Thailand Pass ของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ อาคารเทียบเครื่องบิน C กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จุดตรวจหนังสือเดินทางฝั่งตะวันตก จุดนัดพบระหว่างผู้โดยสารและโรงแรมสถานที่กักตัวทางเลือก (Alternative Quarantine) ณ ช่องทางออก C โถงผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 อาคารผู้โดยสาร รวมทั้งสำรวจความพร้อมด้านการบริหารจัดการระบบขนส่งสำหรับนักท่องเที่ยวบริเวณประตู 9 ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. มีความห่วงใยในมาตรการการเปิดรับนักท่องเที่ยว จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่กับคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่สำรวจความพร้อมการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนถึงสถานที่พัก ภาพรวมพบว่าทุกหน่วยงานได้เตรียมพร้อม 100% รวมถึงการให้บริการฉีดวัคซีนของ กทม. ได้ฉีดให้คนกรุงเทพฯ เข็มที่ 1 เกินกว่า 100% แล้ว ส่วนวัคซีนเข็ม 2 ฉีดแล้ว 74.90% ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะมาเที่ยวว่า กรุงเทพฯ ปลอดภัย และประชาชนในกรุงเทพฯ ก็มั่นใจในขั้นตอนการตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับความพร้อมตั้งแต่นักท่องเที่ยวลงจากเครื่องบิน ขั้นตอนการตรวจสอบ จนถึงการเดินทางไปยังโรงแรมที่จัดเตรียมไว้กระบวนการต่างๆ ถือว่า พร้อมมาก
ทั้งนี้ หากพบผู้ติดเชื้อโควิดขณะนี้ กทม. ได้จัดทำแผนเผชิญเหตุไว้เรียบร้อย ทั้งมาตรการในการนำส่งรักษา มาตรการในส่งกลับ รวมถึงจัดเตรียมสถานที่ไว้เพื่อดำเนินการรักษาแล้ว อย่างไรก็ตาม ระบบการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด ในปัจจุบัน สำนักการแพทย์ กทม. มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลสังกัด 11 แห่ง รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลของหน่วยงานราชการในพื้นที่ โรงเรียนแพทย์ ซึ่งมีขีดความสามารถในการดูแลรักษา ดังนั้นประเด็นการรักษาพยาบาลจึงถือว่ามีพร้อมมากด้วยเช่นกัน
จากนั้นคณะฯ เดินทางไปโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park เพื่อสำรวจความพร้อมมาตรฐานการบริหารจัดการห้องพัก พื้นที่สาธารณะ สระว่ายน้ำ สปา และร้านอาหาร ตามมาตรการสาธารณสุข และมาตรฐาน Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) และ (SHA+) ซึ่งโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park เป็นโรงแรมผ่านเกณฑ์มาตรฐาน SHA Plus (SHA+) คือ ความพร้อมของผู้ประกอบการ เพื่อรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากต่างประเทศในโครงการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ซึ่งพนักงานในสถานประกอบการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ต่ำกว่า 70% เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้กับผู้รับบริการ ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามมาตรฐานซึ่งทางหน่วยงานราชการกำหนดด้วยความเคร่งครัด