กลุ่มแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชนยื่นหนังสือสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีขอความช่วยเหลือวัคซีนโควิด อัด"ประยุทธ์"โอหังตอบในสภาไม่ขอวัคซีนจากใคร แต่ประชาชนต้องการ

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นักศึกษา แพทย์พยาบาลเพื่อมวลชน เดินทางมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือเรื่องวัคซีนโควิด-19 ต่อสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย 

นพ.ทศพร กล่าวว่า มาขอความช่วยเหลือจากประเทศเยอรมนีเพราะมีความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์เป็นอันดับต้นๆของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแพทย์ หรือ เรื่องยา ในอดีตสมัยตนเป็นนักเรียนแพทย์ก็ได้ใช้ยาจากเยอรมันเป็นสำคัญ สืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เมื่อคืนวันที่ 3 ที่พล.อ.ประยุทธ์ระบุตอนหนึ่งว่า คนอย่างตนจะไปขอใคร ประเทศอื่นเขามอบให้เอง ซึ่งคำกล่าวเช่นนี้เหมือนกับที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเป็นคนโอหัง หากนายกรัฐมนตรีจะยืนยันว่าไม่ขอวัคซีนจากใคร แต่ประชาชนไม่เห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนเป็นมิตรกับทุกประเทศและเรายินดีที่จะได้รับความช่วยเหลือ การช่วยเหลือไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นการช่วยเหลือแบบเปล่าๆ ให้เป็นมีการแลกเปลี่ยนกันก็ได้ สามารถจะซื้อวัคซีนและหยิบยืมก็เป็นไปได้ และเราก็ยินดีที่จะได้รับความช่วยเหลือ เพราะไม่ใช่เรื่องเสียหน้าอะไร ด้วยสถานการณ์โควิดตอนนี้มันระบาดไปทั่วโลก วันนี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ตนและกลุ่มแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชนได้ยื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี

ทั้งนี้ ในเนื้อหาของหนังสือนั้นกล่าวอ้างถึงประเทศเยอรมนีที่มีความสำเร็จในการควบคุมโควิชแต่ในประเทศไทยนั้น เป็นประเทศที่มีปัญหา เพราะว่ารัฐบาลไม่ได้มาจากประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และสืบทอดอำนาจจากคณะรัฐประหาร รวมทั้ง ไร้ประสิทธิภาพและประชาชนไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ อีกทั้งวัคซีนซิโนแวคที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้เป็นวัคซีนที่ด้อยประสิทธิภาพ แต่รัฐบาลไทยยืนยันจะสั่ง รวมทั้งแอสตร้าเซเนก้าก็ผลิตไม่ทัน ด้วยเหตุผลทั้งหมดจึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากสถานทูตเยอรมัน โดยจำนวนที่จะได้รับบริจาคนั้นให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและความเหมาะสมที่ทางรัฐบาลเยอรมันจะมอบให้กับประเทศไทย