ประธานกมธ.2คณะจาก"พลังประชารัฐ-ก้าวไกลWลงชพื้นที่ย่านดินแดงดูผลกระทบจากการชุมนุมเพื่อหาทางออก
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมด้วย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางลงพื้นที่โครงการ The Capital Condo ราชปรารภ-วิภาวดี และแฟลตดินแดง เพื่อติดตามและสังเกตการณ์เกี่ยวกับผลกระทบของประชาชนจากการชุมนุมทางการเมือง
นายสิระ กล่าวว่า การลงพื้นที่มาหาข้อเท็จจริงเพื่อรับฟังข้อเท็จจริงให้รอบด้านก่อนที่จะบอกว่าใครถูกใครผิด โดยหลังจากนี้ จะมีการหารือเพื่อประเมินร่วมกับกรรมาธิการพัฒนาการเมือง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้ได้รับผลกระทบ โดยในวันพุธที่ 25 ส.ค. จะมีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมาธิการทั้ง 2 คณะ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและเสนอแนะวิธีการปฏิบัติและทางออก จึงขอฝากไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขอให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยการให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการฯ ที่มีการส่งหนังสือเชิญไป แต่หากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่เดินทางเข้าร่วมประชุมตามที่เชิญ ทางคณะกรรมาธิการทั้ง 2 คณะ ได้มีการหารือกันเบื้องต้นว่าจะนำคณะกรรมาธิการฯทั้ง 2 คณะ จะไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะเชิญผู้บังคับบัญชาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาร่วมพิจารณาด้วย
นายสิระ กล่าวฝากไปยังผู้ชุมนุมว่า การชุมนุมสามารถทำได้ตามกฎหมาย แต่จะะต้องปราศจากอาวุธและการใช้ความรุนแรง จึงอยากเรียกร้องไปยังผู้ชุมนุมให้มีการคัดกรองบุคคลที่ชอบใช้ความรุนแรงและตรวจค้นอาวุธผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุม เพื่อจะได้ยืนยันกับสังคมว่าเป็นการชุมนุมโดยสันติ ส่วนการเรียกร้องเกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรีนั้นขอให้นำข้อมูลส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อใช้สภาเป็นที่หาทางออก วันนี้เรามีประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว ไม่ใช่เผด็จการ ผ่านช่องทางสภาผู้แทนราษฎรดีที่สุด เราเลือกตัวแทนไปทำงานให้ประชาชนแล้ว ใช้ตัวแทนของท่านผ่านกฎหมาย ผ่านการเปลี่ยนแปลงที่สภา ขอเรียกร้องผู้ปกครองเด็กอย่าพกพาอาวุธมาในการชุมนุม อย่าใช้ความรุนแรง
ด้าน นายณัฐชา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ได้รับฟังความเห็นของประชาชน พบว่า ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจากการสลายการชุมนุมที่ประชาชนตั้งคำถามว่ารุนแรงเกินไปหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ร่วมกันหาความจริงให้ปรากฏแก่สาธารณชนในทุกมิติและทุกมุม และยินดีที่จะทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกให้ประชาชน ซึ่งเมื่อความจริงปรากฏคิดว่าหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเยียวยาประชาชนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม