คุมตัวคนงานชาวกะเหรี่ยงทำแผนฆ่าโบกปูนผู้รับเหมา สารภาพบันดาลโทสะ หลังโต้เถียงในวงเหล้าเหตุติดค้างค่าแรง
จากกรณีพบศพนายสิทธิโชค หรือ ช่างสนสาโรจน์ อายุ 42 ปี ผู้รับเหมาต่อเติมบ้าน ถูกฆ่าอำพรางศพฝังใต้พื้นบ้าน ภายในคฤหาสน์หรู ซ.บางเชือกหนัง 7 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ท้องที่ สน.บางเสาธง โดยมีมูลเหตุมาจากความขัดแย้งในการทำงานกับกลุ่มลูกจ้าง เกี่ยวกับเรื่องค่าจ้างที่ติดค้าง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้จำนวน 2 ราย คือนายทรงพล ต๊ะปิง หรือ รุ่ง อายุ 46 ปี นายธีรวัฒน์ สุขราช หรือ วัฒน์ อายุ 26 ปี ก่อนให้การรับสารภาพว่าเป็นเพียงแค่คนนำศพไปซ่อนอำพรางไว้ ส่วนผู้ที่ลงมือสังหารเหยื่อคือนายจะหวะ ลาหู่เมอเนอ หรือ พงษ์เทิดไท อายุ 24 ปี คนงานชาวกะเหรี่ยง ซึ่งหลังก่อเหตุได้แยกย้ายหนีไปเพียงลำพัง พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ ก่อนสามารถติดตามจับกุมตัวขณะหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง เบิกตัวนายจะหวะ ลาหู่เมอเนอ ผู้ต้องหาคนสุดท้ายในคดีฆ่าฝังดิน นายสิทธิโชค หรือ ช่างสน สาโรจน์ อายุ 42 ปี ผู้รับเหมาต่อเติมบ้าน ออกจากห้องคุมขังเพื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ คฤหาสน์หรู ซ.บางเชือกหนัง7 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ โดยเริ่มตั้งจุดห้องพักผู้ตาย ต่อด้วยจุดตั้งวงดื่มสุรา และจุดฝังอำพรางศพ
สำหรัย รายละเอียดพฤติการณ์ทางคดี เมื่อช่วงเช้า ที่ สน.บางเสาธง พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าทางคดี ก่อนจะเปิดเผยว่า คดีดังกล่าวทาง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้กำชับให้ทำคดีดังกล่าวด้วยความรอบครอบ ชัดเจน จึงต้องลงมาดูคดีด้วยตนเอง
ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายจะหวะ ผู้ต้องหา เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหารผู้ตายจริง เนื่องจากบันดาลโทษะหลังมีปากเสียงกันเกี่ยวกับเรื่องเงินค่าจ้างที่ติดค้าง ขณะนั่งดื่มกิน โดยมีผู้ต้องหาอีก 2 รายที่ถูกจับก่อนหน้านี้ร่วมก่อเหตุไม่มีการบังคับ ส่วนจะจริงหรือไม่นั้นยังไม่สามารถระยุได้ เพราะเป็นเพียงคำให้การของผู้ต้องหาเท่านั้น ข้อเท็จจริงขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานต่างๆที่ต้องนำมาประกอบกัน อาทิ ผลการชันสูตรศพ อาวุธที่พบ สภาพแวดล้อมที่เกิดเหตุ แต่เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน
พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสงสัยจากทางญาติผู้ตายว่าเป็นการจ้างวานฆ่าหรือไม่นั้น เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานความเชื่อมโยงที่น่าจะเป็นไปได้ แต่เพื่อความรอบครอบได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบให้ครบทุกประเด็นคลายข้อสงสัย ซึ่งหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ จะนำตัวส่งฝากขังศาลต่อไปในวันพรุ่งนี้ รายงานจ่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่า นายจะหวะ ผู้ต้องหารายนี้มีนิสัยเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะช่วงที่อยู่ในอาการมึนเมา เวลามีใครพูดผิดหูก็จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมาในทันที จนทำให้เพื่อนร่วมงานและคนใกล้ชิดหลายคนหวาดกลัว โดนหลังก่อเหตุได้ตัดสินเดินทางหลบหนีกลับไปยัง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เนื่องจากเป็นภูมิลำเนาเก่า กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว