คณะกรรมาธิการงบฯห่วงโควิดรอบใหม่กระทบเด็กเยาวชนมากกว่า7แสนคนประสบภาวะยากจนเฉียบพลันและเสี่ยงหลุดระบบการศึกษา
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ด้านการศึกษา ในส่วนของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาส่วนใหญ่แสดงความกังวลถึงเด็กเยาวชนยากจนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ชี้แจงว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้เด็กยากจนและยากจนพิเศษเพิ่มขึ้นและเสี่ยงต่อการหลุดออกจากระบบการศึกษา จำนวน 712,725 คน การที่ กสศ. ถูกตัดงบประมาณลงจำนวน 904.76 ล้านบาท จากยอดที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564 จำนวน 6,556 ล้านบาท ขณะที่การเสนอเข้าสู่ร่างพ.ร.บ. พิจารณางบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2565 อยู่ที่ 5,652 ล้านบาท จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มเป้าหมายนักเรียนยากจนหรือด้อยโอกาสที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้ง 2 กลุ่มนี้ มากกว่า 712,725 คน ซึ่งประกอบด้วย นักเรียนยากจนพิเศษที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงไม่เรียนต่อในช่วงชั้นรอยต่อ จำนวน 421,401คน และนักเรียนยากจนพิเศษที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนครัวเรือนประสบปัญหาความยากจนเฉียบพลันและมีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษากลุ่มเพิ่มเติม จำนวน 291,324 คน
นอกจากนี้ ในปีการศึกษา 2564 กสศ.พบว่า มีนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษที่จบชั้น ม.6/ปวช. ที่สอบติด TCAS64 จำนวน 11,000 คน จึงส่งข้อมูลให้แก่กยศ.และที่ประชุมอธิการบดีทั่วประเทศ (ทปอ.) เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้สูงขึ้นกว่าปัจจุบันที่อยู่ในระดับเพียง 5% เท่านั้น
นางผ่องศรี ธาราภูมิ กรรมาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กสศ.ได้รายงานตัวเลขผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ผู้ปกครองยากจนเพิ่มขึ้นจาก 300,000 คน เป็น700,000 คน ในปี 2563 และจะเพิ่มขึ้นอีกในปี2564และเกรงว่างบประมาณที่ถูกปรับลดจะกระทบกับการช่วยเหลือเด็กนักเรียนด้อยโอกาสขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งเป็นการปรับลดตั้งแต่เมื่อครั้ง กสศ.เคยเสนอไปยังรัฐบาลตั้งแต่แรก และถูกปรับลดลงมาก่อนที่จะเข้าสภาคล้ายกับอีกหลายหน่วยงานที่ถูกปรับลดตั้งแต่ต้นเพราะงบมีจำกัดในส่วนของอนุกรรมการไม่มีการปรับลดในส่วนของกสศ.เพิ่มเติมแต่อย่างไร ซึ่งที่ประชุม กมธ.รับทราบสถานการณ์ ตามที่ชี้แจงแต่ไม่มีอำนาจในการแปรเพิ่ม การแปรเพิ่มขึ้นอยู่ที่รัฐบาลพิจารณาแปรงบประมาณเพิ่มกลับมาหรือไม่ ขณะที่นางนาที รัชกิจประการ กมธ.งบประมาณ ในสัดส่วนพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เป็นเด็กต่างจังหวัดจึงเข้าใจสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นอย่างดี การที่กสศ. ให้ความช่วยเหลือเด็กยากจนเมื่อถูกตัดงบประมาณจะทำให้กระทบถึงเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสถึง 7 แสนคน ตรงนี้มีความสำคัญ เพราะประเทศไทยยังมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งกสศ. ช่วยเหลือได้จริงสำหรับเด็กยากจนในต่างจังหวัดจึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องอย่าตัดงบดังกล่าว