ศบค.จ่อประกาศมาตรการเข้มขึ้น อาจสั่งปิดกิจการเพิ่ม พร้อมคาดอาจขยายพื้นที่ล็อกดาวน์หรือทั้งประเทศ
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. แถลงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศว่า วันนี้ในที่ประชุมศบค.วาระพิเศษ มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค. เป็นประธานการประชุม ได้ประเมินสถานการณ์การติดเชื้อในพื้นที่ควบคุมเข้มงวดสูงสุด คือ กรุงเทพและปริมณฑล และพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ รวม 10 จังหวัด และจากการรายงานผลการกำกับมาตรการไปแล้ว 5 วัน มีการรายงานตัวเลขจากศปม. ทั้งการฝ่าฝืนมาตรการ รวมทั้งตัวเลขการติดเชื้อของผู้ป่วยใหม่ จนนำมาถึงการสรุปในที่ประชุมศบค. อาจจะจำเป็นต้องปรับมาตรการให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น อาจจำเป็นต้องมีการปิดกิจการบางอย่าง จากเดิมที่อนุญาตให้เปิดกิจการกิจกรรมได้ถึงเวลา 20.00 น. เพื่อให้ประชาชนได้มีเวลาเดินทางกลับบ้าน และเวลาที่ห้ามออกนอกเคหสถาน หลังจากเวลา 21.00 น. ในที่ประชุมวันนี้ มีการพิจารณาอาจจะมีการปิดกิจการให้มากขึ้น ปิดมากที่สุดและอาจจะปรับมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น ขอให้ติดตามการรายงานในเร็วๆนี้
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ต้องเน้นย้ำว่ามาตรการล็อกดาวน์ที่ประกาศไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการล็อกดาวน์เป็นพื้นที่ มีการควบคุมเข้มงวดเฉพาะ 10 จังหวัด ไม่ใช่ทั้งประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีความเดือดร้อนน้อยที่สุด แต่เมื่อมีการรายงานการบังคับใช้มาตรการ 5 วันที่่ผ่านมา ยังพบว่าการบังคับใช้มาตรการยังมีความน่าเป็นห่วง ในวันนี้ ผู้อำนวยการศบค. จึงขอให้คณะแพทย์ที่ปรึกษามีการทบทวนมาตรการสาธารณสุขเพื่อนำเสนอย่างเร่งด่วน จึงขอให้สื่อมวลชนได้ติดตามว่าอาจจะมีการปรับมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายการข่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีการประเมินหลังออกมาตรการเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร รวมทั้ง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นที่ประชุมเห็นชอบตามมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคเกี่ยวการฉีดวัคซีนไขว้ หรือ วัคซีนสูตรผสม รวมถึงรับทราบการปลดล็อคชุดตรวจโควิดแบบเร่งด่วน Antigen Test Kit
นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขยกระดับมาตรการเพิ่มขึ้น เช่น การขยายมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก คือ จังหวัดชลบุรี หรือ อาจจะบังคับใช้มาตรการทั่วประเทศ โดยให้กลับไปหารือและเสนอ ศบค.โดยเร็วที่สุด