THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

05 กรกฎาคม 2564 : 21:06 น.

นายกฯสั่งระดมกำลังจากทุกเหล่าทัพรวมถึงยานพาหนะรถดับเพลิงโฟมสารเคมีชุดเผชิญเหตุอากาศยานไร้คนขับรวมทั้งรถพยาบาลเข้าเสริมการทำงานดับเพลิงไหม้โรงงาน

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์การระเบิดภายในโรงงานของบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่ยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการปฎิบัติงานบรรเทาภัยของหน่วยงานต่างๆ ในการระงับเหตุอย่างต่อเนื่อง ทั้งการป้องกันการะเบิดซ้ำ การดับไฟ การสกัดควัน การจัดหาสารเคมีและโฟมดับไฟ เนื่องจากเพลิงที่ลุกไหม้ในที่เกิดเหตุ มีต้นทางเป็นถังบรรจุสารเคมีซึ่งสารดังกล่าวไม่สามารถดับได้ด้วยน้ำ จึงมีความจำเป็นต้องใช้โฟมในการดับไฟ

ทั้งนี้ นายกฯได้โทรศัพท์สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ประสานนำเฮลิคอปเตอร์  2 ลำ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และรถฉีดโฟมขนาดใหญ่ ให้ความช่วยเหลือการดับเพลิงแล้ว รวมทั้งได้สั่งให้ทุกหน่วยงานทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนช่วยเหลือจัดหาโฟมและสารเคมีดับไฟเพิ่มเติมด้วย รวมถึงการขอทีมที่เชี่ยวชาญการจัดการสารเคมีเข้าร่วมสนับสนุนการระงับเหตุ ซึ่งได้นำเครื่องมือ เช่น Fire Robots และ Gas Detectors ไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว

นอกจากนี้ นายกฯยังได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม จัดส่งกำลังพลจากทุกเหล่าทัพ รวมถึงยานพาหนะ รถดับเพลิง โฟมและสารเคมี ชุดเผชิญเหตุสารเคมี อากาศยานไร้คนขับ รวมทั้งรถพยาบาล พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์สนามและทหารสารวัตร เข้าพื้นที่เสริมการทำงานของ จ.สมุทรปราการ ด้วยแล้ว

“นายกรัฐมนตรีเสียใจกับการสูญเสียเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เสียชีวิตจากการระงับเหตุในครั้งนี้ ขอให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ พร้อมกับให้ภาครัฐจัดการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนจากทุกหน่วยงานที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ทั้งการระงับเหตุและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ และย้ำให้ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องที่พักและอาหารในจุดอพยพต่างๆ รวมทั้งเร่งสำรวจและหาสาเหตุเพลิงไหม้ให้ชัดเจน เมื่อสถานการณ์สงบลงเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป และการเตรียมการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว”โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายกฯได้สั่งการกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาฝุ่นควันจากเหตุดังกล่าว แต่ล่าสุดสั่งให้ยกเลิกภารกิจดังกล่าวที่เตรียมการไว้แล้วเนื่องจากมองว่าการทำฝนหลวงจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ระงับเหตุ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่ปนเปื้อนได้

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ