เลชาฯสมช.วอนผู้ประกอบการร้านอาหารอย่าอารยะขัดขืนฝ่าฝืนกฏหมายคุมโควิด เผยทราบแล้วมีแคมเปญ "#กูจะเปิดแล้วมึงจะทำไม" หวั่นทำให้ติดเชื้อกันมากขึ้น
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนว่า มีการขนย้ายกำลังตำรวจ 400 นาย จาก จ.นครปฐม เพื่อไปฝึกยังค่ายศรียานนท์ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เกรงว่าจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ และควรมีการเลื่อนฝึกไปก่อน ว่า เยังไม่ได้รับรายงาน ต้องรอตรวจสอบก่อนว่ามีปัจจัยในการดำเนินการอย่างไร พร้อมเห็นว่าในช่วงนี้ไม่ควรรวมตัวกันเป็นหมู่มาก หากมีมาตราการกระจายตัวกันอยู่หรือมีความจำเป็นที่จะต้องสอบ ทาง ศบค.ก็จะพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งต้องขอดูรายละเอียดก่อน เพราะคำว่ารวมตัวอาจจะไม่ได้อยู่ร่วมกันในสถานที่เดียว อาจจะกระจายตัวกันอยู่ แต่หากรวมตัวกันจริงๆก็อาจจะยังไม่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่ผู้ประกอบการร้านอาหารแสดงอารยะขัดขืน เปิดแคมเปญ "#กูจะเปิดแล้วมึงจะทำไม" พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซความร่วมมือหากทำเช่นนั้น จะมีโอกาสเสี่ยงสูงทั้งผู้ที่เข้าไปใช้บริการ ผู้ประกอบการ และตัวพนักงานเอง ขอย้ำว่าขณะนี้ต้องขอความร่วมมือ หากกลุ่มผู้ประกอบการเดินหน้าแคมเปญนี้ เราก็ยังจะขอความร่วมมือต่อไป คู่กับการดำเนินการทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์หากใช้มาตรการทางกฎหมายในทันทีจะทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น เบื้องต้นต้องไปทำความเข้าใจว่าที่ผ่านมา จากการสอบสวนโรคพบว่ามาจากการรวมตัวกันรับประทานอาหารและติดเชื้อโควิด-19 ก่อนหน้านี้ที่ผู้ประกอบการได้เข้ามาหารือก็ไม่ได้ยื่นข้อเสนอเรื่องนี้ เพียงแต่ขอให้รัฐบาลเยียวยาดูแล ยอมรับว่าในรอบนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจหรือศบศ.เยียวยาอยู่เยอะพอสมควร
เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มนักดนตรี คนกลางคืน ที่มองว่าถูกปิดมาตั้งแต่ระลอกแรกและไม่ได้รับการเยียวยาเหมือนกับธุรกิจอื่นพล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า รอบนี้ก็ได้รับการดูแลตามมติคณะรัฐมนตรี แต่อาจจะไม่ได้เท่ากับที่ขอมา ก็ต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการทำความเข้าใจว่าหากผู้ประกอบการแสดงอารยะขัดขืนอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อกันมากขึ้น ทำให้สังคมโดยรวมเดือดร้อนไปด้วย และขอความเห็นใจซึ่งกันและกัน ซึ่งรัฐบาล และ ศบค.จะมีการประเมินสถานการณ์ในช่วง 15 วัน หากสถานการณ์คลี่คลายก็อาจจะมีการผ่อนคลาย