สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดเกล้าฯ พระราชทานวัคซีนซิโนฟาร์ม 6,400 โดส เพื่อกระจายให้แก่กลุ่มเปราะบางและชุมชนในพื้นที่เสี่ยงของ กทม. เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 4 กรกฎาคม 2564
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เวลา 13.30 น. ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และองค์ประธานกรรมการมูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมภ์ฯ เสด็จลง ณ ตำหนักทิพย์พิมาน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ด้วยทรงห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และทรงให้ความสำคัญต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่มีความจำเป็น เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ทรงมีพระดำริให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ติดต่อหาวัคซีนเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลอีกทางหนึ่ง โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ดำเนินการจัดหาวัคซีนตัวเลือกจากบริษัทซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ที่ผลิตโดยสถาบันชีววัตถุแห่งกรุงปักกิ่ง (BIBP) และเป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เพื่อกระจายวัคซีนให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสให้ได้เข้าถึงวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อสนับสนุนการทำงานของภาครัฐในช่วงที่ประเทศยังมีวัคซีนไม่เพียงพอ โดยวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” ล็อตแรกจำนวน 1 ล้านโดส ได้จัดส่งมาถึงประเทศไทยแล้วเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน และผ่านการตรวจสอบคุณภาพของวัคซีนจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เมื่อวันอังคารที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดให้มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมภ์ฯ จัดหาวัคซีนซิโนฟาร์มเพื่อพระราชทานแก่ 4 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จำนวนแห่งละ 6,400 โดส รวมทั้งหมด 25,600 โดส ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 64 พรรษา 4 กรกฎาคม 2564 โอกาสนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้ารับพระราชทานวัคซีนซิโนฟาร์ม จำนวน 6,400 โดส เพื่อนำไปจัดสรรกระจายฉีดให้แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ที่มีรายได้น้อย และชุมชนในพื้นที่เสี่ยงเป็นกลุ่มแรก โดยจะเริ่มให้บริการฉีดตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม และได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อประเทศชาติ นับเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แก่ปวงชนชาวไทย