THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

22 มิถุนายน 2564 : 17:42 น.

กมธ.แก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภารุมค้านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 144 และ 185 ฉบับพรรคพลังประชารัฐ อ้างทำลายหัวใจสำคัซญของการปราบคอรัปชั่น

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา นำโดย นายสังศิต พิริยะสังสรรค์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานกมธ. แถลงว่า เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ทางคณะกมธ.มีการประชุมหารือเกี่ยวกับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 13 ฉบับ โดยที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 และมาตรา 185 เนื่องจากบทบัญญัติทั้ง 2 มาตราห้ามไม่ให้ ส.ส.และ ส.ว.เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือการให้ความเห็นชอบในการจัดทำโครงการใดๆ ของหน่วยงานรัฐ

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ 40 และ 50 มีการกำหนดบทบัญญัติไว้ และแม้ว่าการเสนอแก้ไขครั้งนี้ไม่ได้ทำลายหลักการ แต่มีการตัดทอนบทลงโทษ ส.ส. ส.ว. คณะรัฐมนตรี (ครม.) และข้าราชการประจำ รวมถึงตัดข้อห้าม ส.ส.และ ส.ว.เข้ามามีส่วนในการใช้จ่ายหรืออนุมัติงบประมาณ และการเข้ามาแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากบทบัญญัติส่วนที่ถูกเสนอตัดออกไป 2 มาตราในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐธรรมนูญ 60 ที่ได้รับสมญานามว่า “รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง”

นายสังศิต กล่าวว่า นอกจากนี้บทบัญญัติในมาตรา 185 ยังสอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านคอร์รัปชั่นอีกด้วย คณะ กมธ.มองว่า ปัญหาใหญ่ที่สำคัญที่สุดของไทยมี 3 เรื่องคือ การศึกษา ความยากจนและความเหลื่อมล้ำ และการทุจริตคอรัปชั่น ดังนั้น ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขไม่ได้หากปล่อยให้มีการโกง การทุจริตเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะ กมธ.จะมีมาตรการแซงก์ชั่นอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา อาจจะเป็นเรื่องของการงดออกเสียง การลงมติไม่เห็นด้วย หรือการอยู่ในห้องประชุมแต่ไม่กดปุ่มลงคะแนนใดๆ

ด้าน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 185 เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตัวกับส่วนรวม ซึ่งเป็นหลักการสำคัญที่ระบุในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการคอร์รัปชั่น ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคีต้องตอบรับหลักการดังกล่าว รัฐธรรมนูญ 60 จึงบัญญัติไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเสนอแก้ไขมาตรา 144 และมาตรา 185 อยู่ในญัตติแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ แสดงว่า ส.ว.ในคณะ กมธ.จะไม่รับร่างดังกล่าวใช่หรือไม่ นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า เป็นความลำบากใจของ กมธ.และ ส.ว.หลายคน เพราะมาตรา 144 และมาตรา 185 รวมอยู่ใน 5 ประเด็นใหญ่ในญัตติของพรรคพลังประชารัฐ เราแสดงจุดยืนในการแก้ไข 2 มาตราดังกล่าว ซึ่งการลงมาแถลงแบบนี้ คงพิจารณากันได้ว่าการลงมติจะเป็นอย่างไร แต่การตัดสินใจก็เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกแต่ละท่าน ต้องดูการเสนอญัตติของผู้เสนอญัตติก่อน ส่วนประเด็นอื่นๆ ของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องของ ส.ว.แต่ละคนที่จะมีมุมมองทั้งเหมือนและแตกต่างกัน

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ