จักษุแพทย์ห่วง คนไทยเป็นกันมากขึ้น โรคตาติดจอ แนะวิธีป้องกัน
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคตาที่มีสาเหตุมาจากการอยู่กับหน้าจอมากเกินไปมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อาทิ กลุ่มอาการตาไม่สู้แสง โดยจะมีอาการแสบตา ตาแห้ง ปวดตา ซึ่งจะเกิดขึ้นชั่วคราว เมื่อพักตาอาจช่วยบรรเทาอาการ แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดผลตามมา เช่นกระจกตาอักเสบ กล้ามเนื้อตาล้า ดังนั้น หากเกิดอาการผิดปกติทางตา ควรพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องเหมาะสม
ด้าน พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผอ.รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในรพ.เมตตาประชารักษ์ ปี 2560 เป็นผู้ป่วยโรคตาจากความผิดปกติของสายตาและการเพ่งมอง 3,844 ราย สาเหตุของการเกิดจากการใช้สายตาเพ่งมองหน้าจอมากเกินไป แม้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตาอย่างเฉียบพลัน แต่ทำให้เกิดความไม่สบายตา ระคายเคือง และเป็นปัญหารบกวนการใช้สายตาอยู่เสมอ การถนอมดวงตาทำได้ ด้วยการกระพริบตาให้บ่อยเมื่ออยู่หน้าจอเพื่อป้องกันตาแห้ง หากตาแห้งควรใช้น้ำตาเทียม เพื่อลดการระคายเคืองตา ควรพักสายตาจากหน้าจอเป็นระยะทุก 20-30นาที ให้พัก 30-60 วินาที โดยการมองออกไปไกลๆ หรือหลับตา
ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องอยู่หน้าจอนานเกิน 30 นาที ควรพักประมาณ 5-15 นาที หรือใช้แผ่นกรองแสง หรือใส่แว่นกรองแสง ปรับแสงหน้าจอให้พอเหมาะไม่สว่างเกินไป ไม่ควรทำงานในที่มืด จัดวางจอให้อยู่ในระยะพอเหมาะ มองสบาย ไม่ต้องเพ่งโดยเฉลี่ยระยะจากตาถึงจอควรห่าง 45-50 ซม.รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา ได้แก่ ผักผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม อาทิ แครอท ฟักทอง ผักใบเขียว เช่น คะน้า ปวยเล้ง และดื่มน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากการดื่มน้ำบ่อยๆ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ดวงตา