นครราชสีมา-ผู้ว่าฯโคราชออกคำสั่งคุมเข้มเรือนจำ 6 แห่งทั่วจังหวัดสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ออกนอกพื้นที่เด็ดขาด 14 วันหวั่นนำเชื้อมาแพร่ พร้อมเตรียมขอพระราชทานรถชีวนิรภัยมาตรวจหาเชื้อเชิงรุกในผู้ต้องขัง
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประชุมหารือถึงมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในเรือนจำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดและผู้บัญชาการเรือนจำ กับเจ้าหน้าที่เรือนจำทั้ง 6 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ภายหลังจากที่พบผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานหลายแห่งในประเทศติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ถายหลังการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ออกคำสั่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำทั้ง 6 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ห้ามออกนอกพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาโดยเด็ดขาดเป็นระยะเวลา 14 วัน ได้แก่ เรือนจำกลางคลองไผ่ ,เรือนจำกลางสีคิ้ว ,เรือนจำกลางบัวใหญ่ ,ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา , ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริกสีคิ้ว และเรือนจำกลางนครราชสีมา โดยให้มีการปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ 18 – 31 พฤษภาคม 2564 แม้ว่าในเรือนจำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาจะยังไม่พบมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนแต่ทางจังหวัดได้เตรียมขอพระราชทานรถชีวนิรภัยมาดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แก่ผู้ต้องขังภายในเรือนจำทั้ง 6 แห่ง ซึ่งมีผู้ต้องขังอยู่กว่า 2 หมื่นคนเพื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก
สำหรับ ข้อมูลวันที่ 17 พฤษภาคม จังหวัดนครราชสีมาพบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 8 ราย ตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ที่ อ.เมืองนครราชสีมา 7 ราย และที่ อ.ขามทะเลสอ 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 811 ราย พบใน 30 อำเภอจาก 32 อำเภอของจังหวัด ซึ่งรักษาหายเพิ่ม 26 ราย รวมหายป่วยสะสม 566 ราย ยังคงเหลือรักษาตัว 237 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม รวม 8 ราย
ขณะที่ ยอดประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ใน 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ขณะนี้มียอดจำนวนทั้งหมด 456,189 ราย คิดเป็น 59.87 เปอร์เซ็น จากเป้าหมาย 8.6 แสนราย