รมว.แรงงานเผยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ตื่นตัวแจ้งความประสงค์ต้องการฉีดวัคซีนป้องโควิดแล้วกว่า 6.5 ล้านรายจาก 11 ล้านราย
เมื่อวันที่ 16 พ.ค.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมเร่งสำรวจความต้องการการฉีดวัคซีนโควิด -19 แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในสถานประกอบการที่มีอยู่จำนวน 11 ล้านคน เพื่อทำให้ทราบข้อมูลตัวเลขที่แท้จริงว่า ผู้ประกันตนต้องการฉีดวัคซีนทั้งหมดจำนวนเท่าใด และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่แรงงานในสถานประกอบการให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป เนื่องจากหากให้ลูกจ้างลงทะเบียนเอง นายจ้างจะไม่สามารถรู้ข้อมูลว่าลูกจ้างในสถานประกอบการฉีดวัคซีนไปแล้วเท่าใด เมื่อข้อมูลการฉีดวัคซีนของลูกจ้างในสถานประกอบการเดียวกันรวมกันไม่ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ก็จะทำให้ไม่สามารถเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ แต่ถ้าฉีดเกิน 70% ก็จะส่งผลในภาพรวมให้สามารถเร่งควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ให้เบาบางลงได้โดยเร็ว
สำหรับแผนการกระจายวัคซีนไปให้ผู้ประกันตนในสถานประกอบการนั้น ขณะนี้ระบบ e –Service บนเว็บไซต์ www.sso.go.th ของสำนักงานประกันสังคม มีข้อมูลผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวนประมาณ 11 ล้านคน ได้ส่งข้อมูลมาแล้วประมาณ 6.5 ล้านคน ซึ่งผู้ประกันตนส่วนใหญ่ 80 % ต้องการฉีดวัคซีน ที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ไม่ต้องการฉีด โดยกระทรวงแรงงานจะส่งข้อมูลเหล่านี้ให้กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับวัคซีน อันที่จริงกระทรวงแรงงานมีความพร้อมในการที่จะรับวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุขมาดำเนินการฉีดให้กับผู้ประกันตนในสถานประกอบการเอง
“เรามีทีมหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคมที่มีศักยภาพเพียงพอ นอกจากนี้ ผมยังได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครเขตพื้นที่ ทั้ง 12 เขต ได้ไปดำเนินการหาพื้นที่ที่จะฉีดวัคซีนเขตละ 2 แห่ง รวมทั้งสิ้น 24 แห่ง ดังนั้น เราคิดว่ากระทรวงแรงงาน เรามีความพร้อมที่จะรับวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อมาดำเนินการเข้าไปฉีดวัคซีนให้กับแรงงาน ในสถานประกอบการเองได้ทันที”รมว.แรงงานกล่าว