THAI NEWS

05 พฤษภาคม 2564 : 10:34 น.

แถลงการณ์จาก แกร็บ ประเทศไทย กรณีที่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยที่เกี่ยวข้องกับคนขับฟู้ดเดลิเวอรี่

จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความในโซเชียลมีเดียจนเกิดเป็นข้อกังวลด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยที่เกี่ยวข้องกับคนขับฟู้ดเดลิเวอรี่ ทาง แกร็บ ประเทศไทย ได้รับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และขอชี้แจงให้ทราบว่า บริษัทฯ ได้มีมาตรการในการดูแลด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของพาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารและพัสดุอย่างต่อเนื่อง และพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ในการแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากหน่วยงานภาครัฐ หรือเมื่อได้รับการติดต่อจากพาร์ทเนอร์คนขับว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง บริษัทฯ จะทำการระงับสัญญาณทันที และจะร่วมมืออย่างเต็มที่กับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางย้อนหลัง รวมถึงผู้ใช้บริการทุกคนที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์คนขับทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะทำการเปิดระบบกลับมาอีกครั้ง หากได้รับเอกสารยืนยันผลการตรวจเป็นลบเป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนี้ พาร์ทเนอร์ยังสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อรับเงินชดเชย ซึ่งครอบคลุมถึงค่าตรวจโรคโควิด-19 มูลค่า 500 บาท เงินชดเชยรายได้ 2,000 บาทในกรณีที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ และเงินชดเชยรายวัน 500 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 15 วัน ต่อการเข้าพักรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในที่มีสาเหตุจากการติดโรคโควิด-19 

ทั้งนี้ แกร็บ ประเทศไทย ยังคงให้ความสำคัญกับมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในบริการการเดินทาง และบริการรับ-ส่งอาหารและพัสดุ ภายใต้โครงการ “แกร็บแคร์” (GrabCares) ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในระลอกที่ 3 นี้ แกร็บมุ่งเน้นการสื่อสารเพื่อเน้นย้ำให้พาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารและสินค้า รวมถึงพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร ปฏิบัติตามแนวทางด้านความปลอดภัยต่างๆ เหล่านี้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยสำหรับตนเอง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ อาทิ

• การแนะนำให้พาร์ทเนอร์คนขับปฏิบัติตามแนวทางหรือข้อกำหนดของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ การหมั่นทำความสะอาดยานพาหนะ รวมถึงการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล

• การใช้มาตรการจัดส่งอาหารแบบไร้สัมผัส (Contactless Delivery) โดยให้พาร์ทเนอร์คนขับเว้นระยะห่างกับลูกค้าอย่างน้อย 2 เมตรตลอดเวลา รวมถึงการรอรับอาหารที่ร้านจะต้องยืนห่างกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร ขณะต่อคิวที่ร้านอาหาร 

• การส่งเสริมให้ผู้ใช้งานชำระค่าบริการผ่านบัตรหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (GrabPay หรือ GrabPay Wallet) โดยได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารในการส่งเสริมการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดการสัมผัสเงินสดในช่วงการแพร่ระบาด

• การใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัย  เช่น การใช้ระบบคัดกรองด้านสุขภาพและสุขอนามัยผ่านแอปพลิเคชัน  โดยพาร์ทเนอร์คนขับทุกคนจะต้องทำแบบประเมินเพื่อยืนยันว่าไม่มีอาการป่วยจากโรคโควิด-19 และจะต้องถ่ายภาพเซลฟี่ของตนเองขณะสวมใส่หน้ากาก พร้อมอัปโหลดภาพผ่านระบบ เพื่อยืนยันตัวตนก่อนให้บริการในทุกวัน

ทางบริษัทฯ ขอความร่วมมือให้ทุกท่านติดตามและรับข้อมูลข่าวสารจาก หน่วยงานภาครัฐ สำนักข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการรับข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จ หรือยังไม่ได้รับการยืนยันข้อมูลอย่างเป็นทางการ

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ