ตำรวจนครบาลออกหมายเรียก"จตุพร-อดุลย์"พร้อมพวก 40 คนจัดการชุมนุม"กลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน"ทำผิดฏหมายฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินและพ.ร.บ.ควบคุมโรค
เมื่อวันที่ 7 เมษายน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า การชุมนุมของกลุ่ม”ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน” ที่มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.และนายอดุลย์ เหลืองบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม เมื่อวันที่ 4 -5 เมษายนที่ผ่านมาว่า เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมายฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพฯ ประกาศห้ามมีการชุมนุมเด็ดขาด โดยในการชุมนุมวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงครามได้รับความร้องทุกข์ ตามความร้องทุกข์คดีความอาญาที่ 205/2564 ดำเนินคดีกับนายอดุลย์ เหลืองบริบูรณ์ พร้อมพวก 28 คน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมายต่อไป โดยมีการนัดหมายเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1.เรียกมารับทราบข้อหา 14 คน ในวันที่ 15 เมษายน กลุ่มที่ 2 เรียกมา 14 คน ในวันที่ 16 เมษายน
สำหรับ การชุมนุมในวันที่ 5 เม.ย.พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงครามได้รับคำร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอีก 12 คน ตามคดีอาญาที่ 207 /2564 กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ให้แจ้งว่า การกระทำใดๆ การชุมนุมใดๆ ในเขตกรุงเทพฯ ขณะนี้เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ผู้ประกาศเชิญชวน ไม่ว่าจะเป็นการเชิญชวนทางโซเชียลฯผู้ร่วมชุมนุม ผู้มีส่วนปราศรัยการชุมนุมตลอดจนผู้สนับสนุนการชุมนุม ทั้งรถสุขา เวที เครื่องเสียงถือเป็นผู้ร่วมกระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ข้อหาอื่นต้องดูตามความผิดตามพฤติกรรมของแต่ละคน ถ้ามีการปราศรัยพาดพิงหรือก่อให้เกิดความผิด โดยเฉพาะความผิดตามมาตรา 112 ถือเป็นคดี 112 อีกส่วนหนึ่ง ส่วนการชุมนุมในส่วนสันติพร ทาง กทม.มีหนังสือแจ้งให้ นายอดุลย์ทราบแล้วว่าไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ และต้องตรวจสอบว่า กทม.มีความเสียหายอะไรบ้าง อาจจะเป็นการบุกรุกสถานสาธารณะหรืออย่างหนึ่งอย่างใดก็ขึ้นอยู่กับ กทม.