THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

29 มีนาคม 2564 : 15:53 น.

ศาลปกครองกลางพิพากษา "บุญทรง เตริยาภิรมย์ -ภูมิ สาระผล " อดีตรมต.พาณิชย์สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พร้อมพวกชดใช้ค่าเสียหาย"คดีจำนำข้าว" เฉียด 1.5 หมื่นล้าน ระบุมีการแบ่งหน้าที่กระทำขัดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ห้องพิจารณาคดี 8 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องคดีที่นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ผู้ฟ้องที่ 1 นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีต ผอ.สำนักบริหารการค้าข้าว กรมการค้าต่างประเทศ และอดีตผู้ช่วยเลขานุการในคณะทำงานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ผู้ฟ้องที่ 2 นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ฟ้องที่ 4 และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ฟ้องที่ 5 ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง และขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ที่สั่งให้ทั้งหมดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ทุจริตโครงการรับจำนำและ ระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี

ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กระบวนการออกคำสั่งที่ให้ชดใช้ค่าสินไหม และการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดชอบด้วยกฎหมายแล้ว และเปิดโอกาสให้มีการชี้แจงและโต้แย้งคดีตามสมควร รวมทั้งรับฟังพยานบุคคล เอกสารอื่นๆ และไม่ปรากฏพบว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ได้ปฏิบัติตามข้อคำสั่งของผู้หนึ่งผู้ใด

ในส่วนของผู้ฟ้องที่ 3 คือนายอัฐฐิติพงศ์ หรือ อัครพงศ์ ทีปวัชระ หรือ ช่วยเกลี้ยง อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ พบว่า ร่วมกระทำผิดเฉพาะสัญญาการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐฉบับที่ 3 และ 4 เท่านั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉบับที่ 1และ 2 จึงให้รับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนร้อยละ 10 ของค่าเสียหาย และให้เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงพาณิชย์เฉพาะในส่วนที่เรียกให้ค่าชดใช้ค่าเสียหายเกินกว่าข้อเท็จจริงจำนวน 2,694 ล้านบาทเศษ

ศาลระบุว่า สาระสำคัญในการทำสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ กำหนดให้ต้องขายข้าวให้กับหน่วยงานของรัฐหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลของแต่ละประเทศเท่านั้น แต่ข้อเท็จจริงกลับพบว่า บริษัทกวางตุ้งและบริษัท ไห่หนาน ที่ร่วมทำสัญญาจีทูจี เป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ตัวแทนของรัฐบาลจีน และไม่มีการส่งข้าวออกไปตามที่ได้ทำสัญญาไว้ แต่กลับมีการทุจริตนำข้าวมาเวียนขายในประเทศ ซึ่งการกระทำของผู้ฟ้องทั้ง 5 คน ถือเป็นการจงใจกระทำต่อบุคคลอื่น เป็นเหตุทำให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท ดังนั้น คำสั่งกระทรวงพาณิชย์ที่ให้ผู้ฟ้องที่ 1 2 4 และ 5 ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนร้อยละ 20 ของค่าเสียหาย จึงถือว่าเหมาะสมและเป็นธรรมแล้ว ส่วนผู้ฟ้องคดีที่ 3 ให้รับผิดในค่าเสียหายร้อยละ 10  

ส่งผลให้นายมนัส ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 4,011 ล้านบาทเศษ นายทิฆัมพร จำนวน 4,011 ล้านบาทเศษ นายอัฐฐิติพงศ์ จำนวน 2,694 ล้านบาท นายภูมิ จำนวน 2,242 ล้านบาท และนายบุญทรง จำนวน 1,768 ล้านบาท รวมแล้ว 5 คน 14,726 ล้านบาท

ทั้งนี้ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 คน ยังสามารถยื่นร้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ