กรมอนามัยจัดงานครบรอบ 69 ปีย้ำคนไทยใช้ชีวิต New Normal ‘สวมหน้ากาก-เว้นระยะห่าง-ล้างมือ’
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดงานครบรอบ 69 ปี ส่งเสริมสุขภาพอนามัย ชีวิตวิถีใหม่ ย้ำคนไทยการ์ดไม่ตก แนะใช้ชีวิตแบบ New Normal สวมหน้ากากตลอดเวลาและสวมอย่างถูกวิธีเมื่อออกจากบ้าน เว้นระยะห่าง และล้างมือเป็นประจำ ด้วยสบู่และน้ำหรือ เจลแอลกอฮอล์ พร้อมกระตุ้นสถานประกอบการประเมินตนเองผ่าน Thai Stop COVID Plus สร้างสุขอนามัยที่ดีลดเสี่ยงโรคโควิด-19 ณ กรมอนามัน
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในโอกาสครบ 69 ปี กรมอนามัย (12 มีนาคมของทุกปี) ว่า ผลการสำรวจอนามัยโพล พฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในการป้องกัน โรคโควิด-19 ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 23 มกราคม–20 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้ตอบจำนวน 30,143 คน พบว่าพฤติกรรมที่ประชาชนปฏิบัติเป็นประจำคือ สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเป็นประจำ ร้อยละ 95.7 ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสถานที่ ร้อยละ 93.8 ล้างมือเป็นประจำ ร้อยละ 90.1 และสแกนไทยชนะ ร้อยละ 75.3 ส่วนสถานที่สาธารณะที่ประชาชนไปและสวมหน้ากากมากที่สุดคือ ร้านสะดวกซื้อ ร้อยละ 98.2 รองลงมาคือ ตลาด ร้อยละ 97.6 และ ร้านอาหาร ภัตตาคาร ร้อยละ 96.7 ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในช่วงสถานการณ์ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องนั้น กรมอนามัยขอความร่วมมือประชาชนยกการ์ดสูง สร้างสุขอนามัยที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการสวมหน้ากากตลอดเวลาและสวมอย่างถูกวิธีเมื่อออกจากบ้าน เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร ล้างมือเป็นประจำด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการไปในพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งขอให้โหลดแอปพลิเคชัน "หมอชนะ-ไทยชนะ" และสแกนทุกครั้งเมื่อใช้บริการสถานที่สาธารณะต่าง ๆ หรือจดบันทึกประวัติการเดินทางของตนเองในแต่ละวัน เพื่อช่วยให้การสอบสวนโรคทำได้ง่ายขึ้น และเป็นการสร้างเกราะป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อมูลการติดตามผลการประเมินรับรองตนเองของสถานประกอบกิจการผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 8 มีนาคม 2564 มีจำนวน สถานประกอบกิจการ สถานบริการเข้ามาประเมินรับรองตนเอง จำนวนทั้งหมด 18,694 แห่ง สามารถดำเนินการตามมาตรฐานได้ตามเกณฑ์ฯ ร้อยละ 84.40 และไม่ได้ตามเกณฑ์ฯ ร้อยละ 15.60 โดยพบว่า สถานประกอบกิจการที่เข้ามาประเมินรับรองตนเองสูงสุด ได้แก่ 1) ร้านค้าปลีก ค้าส่ง จำนวน 5,575 แห่ง สามารถดำเนินการตามมาตรการฯ ได้ครบทุกข้อ ร้อยละ 94.67 และดำเนินการได้ไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ฯ ร้อยละ 5.33 ได้แก่ ไม่ได้จัดให้มีการลงทะเบียนเข้าออก ไม่มีมาตรการคัดกรอง
2) ร้านอาหาร จำนวน 5,473 แห่ง สามารถดำเนินการตามมาตรการฯ ได้ครบทุกข้อ ร้อยละ 75.19 และดำเนินการได้ไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ฯ ร้อยละ 24.81 ได้แก่ ไม่ได้จัดให้มีการลงทะเบียนเข้าออก ไม่มีมาตรการคัดกรอง และไม่จัดอุปกรณ์ในการตัก หยิบจับอาหารสำหรับผู้ขายและลูกค้า 3) ศาสนสถาน จำนวน 4,524 แห่ง สามารถดำเนินการตามมาตรการฯ ได้ครบทุกข้อ ร้อยละ 80.22 และดำเนินการได้ไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ฯ ร้อยละ 19.78 ได้แก่ ไม่มีการกำหนดเส้นทางเข้า-ออกให้ชัดเจน ไม่ได้จัดให้มีการลงทะเบียนเข้าออก ไม่ได้ทำความสะอาดสถานที่ อุปกณ์ พื้นผิวที่สัมผัสร่วมกันบ่อย ๆ และไม่มีมาตรการคัดกรอง
4) ตลาด จำนวน 1,086 แห่ง สามารถดำเนินการตามมาตรการฯ ได้ครบ ทุกข้อ ร้อยละ 76.80 และดำเนินการ ได้ไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ฯ ร้อยละ 23.20 ได้แก่ ไม่ได้จัดให้มีการลงทะเบียนเข้าออก ไม่มีการควบคุมจำนวนลูกค้า มิให้แออัด และไม่ได้จัดให้มีการระบายอากาศภายในอาคารที่ดี ทั้งนี้ ขอความร่วมมือสถานประกอบการต่าง ๆ ประเมินมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกัน โรคโควิด-19 ด้วยตนเองผ่านแพลตฟอร์ม “Thai Stop COVID Plus” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเฝ้าระวัง สร้างความมั่นใจให้ประชาชนที่มารับบริการ และยกระดับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง
นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมภายในงานวันคล้ายวันสถาปนา ครบ 69 ปี กรมอนามัย ว่า ในการใช้ชีวิตวิถีใหม่นั้นถึงแม้ว่าทางภาครัฐจะมีวัคซีนเข้ามาแล้ว แต่อยากให้ประชาชนยังคงสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างเวลาไปที่สาธารณะ และหมั่นล้างมืออย่างสม่ำเสมอ สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า อยากให้มีการยกระดับในด้านสุขอนามัย และคอยประเมินตนเอง โดยมี Certificate และ QR Code ให้ประชาชนได้เข้าถึง รับรู้และร่วมประเมินมาตรฐาน ทั้งนี้ทางภาครัฐโดยกรมอนามัยจะร่วมประเมินเป็นครั้งคราว
"ตลอดระยะเวลา 69 ปี กรมอนามัยได้มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหามากมายหลากหลาย ทั้งเรื่องโรคระบาดต่างๆตามยุคตามสมัย ช่วยจัดหาแหล่งนำสะอาด คอยช่วยเหลือด้านสุขอนามัยให้ประชาชนมีระบบสุขาภิบาลที่ดี และคอยแนะนำและทำความเข้าใจให้กับประชาชนคอยดูแล ดำเนินชีวิตตนเองตามยุคตามสมัยต่างๆให้อยู่รอดปลอดภัยและมีวิถีชีวิตให้ดีมากยิ่งขึ้นตลอดไป" รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว