THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

10 มีนาคม 2564 : 16:50 น.

โฆษกตร.แจงยิบหนังสือรับโอน"บิ๊กโจ๊ก"จากสำนักนายกฯมา ถึงตร.แล้ว คาดประชุมก.ตร.เดือนเม.ย.มีวาระพิจารณาตำแหน่งนายพลบรรจุอยู่อาจหยิบมาพิจารณา

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) กล่าวถึงการดำเนินการรับโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) กลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับหนังสือลงนามโดยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเทียบโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ หลังจากเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ตัดโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไปดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง)

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำนักงานกำลังพลอยู่ระหว่างการประมวลเรื่องเสนอผู้บังบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อกลั่นกรองก่อนเสนอ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พิจารณาสั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้อง คาดว่า ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่สามารถตอบได้ว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นเมื่อใด และจะสามารถดำเนินการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ในวาระเดือนเมษายนหรือไม่ ส่วนเรื่องเหตุผลความจำเป็นในการเทียบโอน ตามหนังสือของสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ เพียงว่านายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชามีอำนาจบรรจุแต่งตั้ง เห็นควรให้มีการตัดโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ โดยไม่ได้ให้เหตุผลใดเป็นพิเศษ

"สถานะของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ขณะนี้ถือว่ามีการตัดโอนมาแล้ว ตามหนังสือของสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 5 มีนาคม 2564 หนังสือมาถึง ตร.เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 แต่ยังมีกระบวนการทางธุรการ เป็นเรื่องทางเทคนิคกำลังพล ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ยืนยันว่ากรณีนี้เป็นระบบการบริหารราชการตามปกติ ที่มีการโอนย้ายข้ามหน่วยงาน เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าของข้าราชการทั้งหมดอยู่แล้ว ทีอำนาจที่จะดำเนินการให้การทำงานของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด" โฆษก ตร.ระบุ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ในวันที่ 12 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) โดยมีวาระกำหนดตำแหน่งระดับ ผบช. 4 ตำแหน่ง และผบก. 4 ตำแหน่ง ในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ผ่านมาได้ส่งเรื่องกลับมาให้ ตร.นำไปกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของตำแหน่งที่เปิดใหม่ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ตามวาระยังไม่มีการพูดคุยเรื่อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการกำหนดตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เพื่อรองรับการเทียบโอนนั้น ตนยังไม่เห็นวาระดังกล่าว แต่หากมีก็จะชี้แจงให้ทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนว่าจะมีการรับโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาดำรงตำแหน่งใด จะต้องมีการกำหนดตำแหน่งเพื่อรองรับหรือไม่ พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ต้องรอให้สำนักงานกำลังพลประมวลเรื่อง เสนอผู้บังคับบัญชา ตนยังไม่สามารถตอบได้ ว่าจะดำเนินการอย่างไร จะต้องมีการกำหนดตำแหน่งขึ้นมาใหม่ หรือจะชดเชยจากตำแหน่งที่มีอยู่เดิม ส่วนเมื่อรับโอนกลับมาแล้ว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะดำรงตำแหน่งระดับ ผบช. หรือ ตำแหน่งที่สูงขึ้นตรงนี้อยู่ระหว่างการประมวลของสำนักงานกำลังพล ตนยังไม่สามารถตอบได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามการเทียบตำแหน่ง มีระเบียบของก.พ.อยู่แล้ว ซึ่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นข้าราชพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนักบริหารระดับสูง ตามหลักแล้วเมื่อโอนย้ายกลับมา ตำแหน่งที่ได้รับก็ต้องไม่ต่ำกว่าตำแหน่งเดิม

มีรายงานว่า การโอนย้ายกลับมาของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งประเภท บริหารระดับสูง ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการโอนข้าราชการซึ่งไม่ใช่ข้าราชการตำรวจ หรือการโอนพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2547 ข้อ 4 ประกอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบตำแหน่งของ ก.พ. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สามารถโอนย้ายกลับมาในตำแหน่งเทียบชั้นยศ พล.ต.ท. ได้ทั้งตำแหน่งระดับเดิม ผบช. เท่าตอนถูกโอนย้ายไป หรือขยับสูงขึ้น เป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งอำนาจในการพิจารณารับโอนเป็นของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.โดยพิจารณาจากอัตราเงินเดือน ประสบการณ์ ความเหมาะสม กฎหมาย และตำแหน่งที่ว่างอยู่

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าในวันที่ 12 มีนาคม นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) และคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) โดยมีวาระกำหนดตำแหน่งระดับ ผบช. 4 ตำแหน่งและผบก. 4 ตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่บริหารและขับเคลื่อนงานด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตร. คาดว่าในสัปดาห์ถัดไปจะมีการประชุม ก.ตร.เพื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับนายพล วาระเดือนเมษายน โดยอาจจะมีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ในคราวนี้ด้วย ดังนั้นหากมีตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร.หรือเทียบเท่าว่างลงก็เป็นช่องทางที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะโอนย้ายกลับมาได้ ในตำแหน่งระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือเข้าสู่ตำแหน่งระดับ ผบช.

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ