คณะกรรมการตรวจสอบบ่อนพนัน เสนอนายกฯ บังคับใช้ กฎหมายการพนัน 11 ฉบับทุกหน่วยในพื้นที่ ชี้ตัวเลขบ่อนยังนิ่ง 349 แห่ง ขณะที่ประชาชนแจ้งเบาะแสลดลง
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบ เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ว่า คณะกรรมการฯ พิจารณาจากการทำหน้าที่ของฝ่ายปฏิบัติพบว่า ทุกคนทำงานขั้นตอนของกฎหมายและอำนาจหน้าที่เฉพาะของแต่ละหน่วย ไม่ได้มีการประสานในระดับจังหวัด เพื่อบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งมีอยู่ 11 ฉบับ จึงเห็นว่าจะทำอย่างไรให้แต่ละหน่วยงานประสานงานกันในการบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ
"ประเด็นนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้จะไม่ต้องบังคับใช้พ.ร.บ.การพนันฉบับเดียว โดยมติเรื่องนี้จะนำเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายกฯ สั่งหารไปยังทุกๆ จังหวัดให้แต่ละหน่วยนำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะมีกฎหมายและอไนาจหน้าที่ของกรมควบคุมโรคเข้ามาเกี่ยวข้องตามที่ ศบค.ชุดใหญ่เสนอให้มีการบังคับใช้กฎหมายอาญาควบคู่กันไปด้วย เพื่อควบคุมโรคระบาด"นายชาญเชาวน์กล่าว
นายชาญเชาวน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้การแจ้งเบาะแสเรื่องบ่อนการพนันจากประชาชนในแต่ละพื้นที่ลดลง และตัวเลขจากวันที่ 1 ม.ค.-20 ก.พ.64 ตัวเลขการแจ้งเบาะแสบ่อนการพนันจากทุกแห่งอยู่ที่ 349 แห่ง โดยมีบางแห่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบแล้วไม่พบ จึงสั่งการให้ไปวิเคราะห์
ในส่วนของคณะอนุกรรมการแต่ละชุดที่ได้รับมอบหมายให้คิดตามงาน โดยเฉพาะคณะอนุกรรมการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ได้รายงานว่าจากการทำฐานข้อมูลและเริ่มตั้งเลขสืบสวนคดีมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคดีบ่อนการพนันในพื้นที่อ.มาบตาพุด ซึ่งอยู่ในอำนาจของดีเอสไอและฝ่ายปกครองที่รับคดีมาตั้งเดือนมิ.ย.63 ส่วนบ่อนที่อยู่ในตัวเมืองจังหวัดระยองเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“คณะกรรมการมีข้อเสนอนายกฯ ว่าทำอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่สามารถบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการพนันทั้ง 11 ฉบับของแต่ละหน่วยงานให้ครอบคลุมทั้งหมดในครั้งเดียว โดยวันที่ 12 มี.ค.นี้จะครบกำหนด 30 วันในครั้งที่ 2 ทั้งนี้ ยังไม่ได้กำหนดกรอบการทำงานของคณะกรรมการฯ ชุดนี้ว่าสิ้นสุดลงเมื่อไหร่” นายชาญเชาวน์ กล่าว