THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

02 กุมภาพันธ์ 2564 : 15:33 น.

ผบช.น.แถลงจับยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ดผู้ต้องหาสารภาพขนมาหลายครั้งลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้านส่งขายรายย่อยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) พร้อม พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. และตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. แถลงจับกุม นายธานินทร์ พึ่งแก้ว อายุ 41 ปี นายธวัชชัย พึ่งแก้ว อายุ 25 ปี ลุงกับหลาน และนายทองทับ จันทยอด อายุ 51 ปี ชาว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พร้อมยาบ้า 2,100,000 เม็ด รถยนต์กระบะโตโยต้า ทะเบียน บล-8474 จ.ฉะเชิงเทรา สำหรับขนยาเสพติด รถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู ทะเบียน ษห-6664 กรุงเทพมหานคร รถยนต์กระบะโตโยต้า ทะเบียน 1 ฒฌ 1441 กรุงเทพมหานคร ทั้งสองคันใช้เป็นรถนำ รถยนต์กระบะโตโยต้า ทะเบียน กน-2560 จ.เพชรบูรณ์ ของนายธนานินทร์ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง อาวุธปืน ขนาด 9 มม. 1 กระบอก และสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม จับกุมได้ที่บริเวณแยกคลองชล ใกล้เทศบาล ต.ห้วยป่าหวาย ถนน 3034 ต.ห้วยป่าหวาย อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ต่อเนื่อง หน้าบ้านเลขที่ 71 หมู่ 1 อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ปั๊มน้ำมัน ถนนพิชัยรณรงค์สงคราม อ.เมือง จ.สระบุรี และบ้านเลขที่ 52/22 อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่จำนวนหลายคดีในเขตกรุงเทพฯ จึงขยายผลจนทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติตจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคอีสานมาส่งให้กับลูกค้าภาคกลางและกรุงเทพฯโดยใช้รถยนต์จำนวนหลายคันเป็นยานพาหนะร่วมขบวนเป็นประจำ ทำหน้าที่นำทางใช้เส้นทางจ.หนองคาย-ขอนแก่นชัยภูมิ-เพชรบูรณ์-สระบุรี ลงสู่ภาคกลางและกรุงเทพฯ ในการขนส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนพบความเคลื่อนไหวรถยนต์เคลื่อนตัวออกจากกรุงเทพฯมุ่งหน้า จ.เพชรบูรณ์ เชื่อว่าจะไปรับยาเสพติดจึงสะกดรอยติดตามจนวันที่ 31 มกราคม จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.เปิดเผยว่า การจับกุมขยายผลจากการจับยาเสพติดในพื้นที่ย่านอ่อนนุช จากการรวบรวมพยานหลักฐานและติดตามมานานกว่า 2 ปี พบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่มี 4 คน ภูมิลำเนาเป็นคน จ.เพชรบูรณ์ นำยาบ้าเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่าน จ.เลย มาจำหน่ายให้กับรายย่อยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยตำรวจติดตามจนจับกุมได้ 3 คน พร้อมยาบ้า ส่วนผู้ต้องหาอีกคนหลบหนีไปได้ตรวจสอบประวัติพบ 2 ใน 4 คน เคยต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติด

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เคยทำลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยรับค่าจ้างครั้งละประมาณตั้งแต่ 50,000-70,000 บาทต่อครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหานายธานินทร์ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีต่อไป

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ