ศบค.ประกาศยกระดับให้ 28 จังหวัดเป็น "พื้นที่ควบคุมสูงสุด" เตรียมใช้มาตรการสกัดโควิดเข้มข้น ชงนายกฯเคาะเริ่มใช้4ม.ค.นี้ เผยหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นอาจต้อง "ล็อกดาวน์" บางพื้นที่
เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 64 น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าว
ระหว่างการแถลงสถานการณ์โควิดประจำวันว่า จากการประชุทศบค.ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข พบว่า จากสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อหลายคน ทราบดีว่า เดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงแต่ไม่ยอมกักตัว และยังมีการลักลอบมั่วสุม โดยเฉพาะ กิจกรรมการพนัน ที่เป็นต้นตอการระบาด รวมทั้งประชาชนบางส่วนขาดความระมัดระวังในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อใน 53 จังหวัด
ที่ประชุมเห็นว่า มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น โดยแบ่งพื้นที่ในการดำเนินมาตรการควบคุมโรคดังนี้ พื้นที่ควบคุมสูงสุด (โซนสีแดง) 28 จังหวัดได้แก่ ตาก นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง นครนายก กาญจบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง ชุมพร ระนอง กรุงเทพมหานคร
พื้นที่ควบคุม (โซนสีส้ม) 11 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี พังงา
พื้นที่ควบคุม (โซนสีส้ม) 11 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี พังงา
ที่ประชุมได้กำหนดมาตรการที่จะดำเนินการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด แบ่งเป็น 2 ขั้น ดังนี้
ทั้งนี้จะให้มีการนำมาตรการขั้นที่ 1 มาใช้ก่อนหากยังควบคุมโรคได้ไม่ดี ก็จะนำไปสู่การใช้มาตรการขั้นที่ 2 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการล็อคดาวน์ ซึ่งอาจเป็นการใช้มาตรการขั้นที่2 ในบางพื้นที่ แต่ส่วนการประกาศเคอร์ฟิวคาดว่าจะยังไม่มีการประกาศในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม มาตรการทั้งหมด ที่ประชุมต้องนำเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พิจารณาเห็นชอบก่อน หากนายกฯเห็นชอบก็จะเริ่มใช้ในวันที่ 4 ม.ค. 64