หมอดูเข็มทิศทองคำผ่าดวงประเทศจุดจบใกล้ถึงขั้นวิกฤติระบุการปักหมุดของคณะราษฎรที่สนามหลวงสถานที่ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ไม่บังควรส่งผลให้บ้านเมืองแตกแยกวุ่นวายชี้มี“กองโจรคิดทำลายบ้านเมือง”
เมื่อวันที่ 10 พ.ย.63 นายชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง หรือซินแสเข่ง หมอดูเข็มทิศทองคำและผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้วิเคราะห์ผ่าดวงประเทศที่จุดจบใกล้ถึงขั้นวิกฤติ จากการกระทำของผู้ก่อการรุนแรงสร้างความแตกแยกให้บ้านเมือง เนื่องจากรอบอายุของผู้ก่อการต่างตกดวง แตกแยกรุนแรงลึกเกินกว่าจะแก้ไข จนกลายเป็นบาดแผลของชาติที่ยากจะแก้ไขได้ และถ้าจะเปลี่ยนแปลงประเทศก็ยากที่จะเปลี่ยนได้ อันเนื่องดวงของประเทศไทยที่วางฤกษ์ไว้เป็นดวงที่แข็งที่สุดยากที่จะถอนได้ ซึ่งในฤกษ์ยามมีทั้งดวงของพระเจ้าแผ่นดิน และดวงแห่งข้าราชการทหารที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งเจ้าแห่งสัตว์ป่าและเจ้าแห่งสัตว์น้ำ จึงทำให้มีความแข็งแกร่งเข้มแข็งต้องมีบทบาทในการปกครองบริหารประเทศ ตลอดจนดวงของกษัตริย์ที่มีดวงแข็งแกร่งที่เสริมบารมีกันและไม่อาจล้มได้
นายชนม์ทรรศน์ กล่าวว่า อีกทั้งด้วยบารมีแห่งอดีตกษัตริย์ชาติไทย และพระสยามเทวาธิราช ที่ปกปักรักษาคุ้มครองแผ่นดินไทยมานานหลายร้อยปี เชื่อว่าได้ทำให้ประเทศไทยอยู่ได้อยู่ยงคงกระพันมาจนตราบถึงทุกวันนี้ เมื่อวิเคราะห์ดวงดาวที่ทำให้บ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวายสับสน เป็นเพราะดวงคนตกก่อเหตุให้เกิดความไม่เข้าใจ ทำทุกสิ่งที่ต้องการให้เป็นไปตามชะตากรรมตนเองเพื่อสร้างความเป็น ความตายให้เกิดขึ้นและเป็นไปตามวิบากกรรมของผู้บริหารบ้านเมืองที่ไม่สามารถควบคุมได้จนก่อให้เกิดเหตุสงครามประชาชน มีการแย่งชิงอำนาจบริหารบ้านเมือง และต้องการเปลี่ยนระบบการปกครอง ต้องการล้มสถาบันฯอย่างที่เรียกว่า “กองโจรคิดทำลายบ้านเมือง” ซึ่งเชื่อตามโหราศาสตร์ว่า ทำไม่สำเร็จเป็นเรื่องใหญ่ และที่สำคัญรัฐประหารต้องเกิด
“ จึงวิเคราะห์ไปถึงมูลเหตุที่กลุ่มคณะราษฎร กลุ่มปลดแอก ได้กระทำการในสิ่งที่ไม่บังควรบนพื้นที่สนามหลวง ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีหลวง มีการปักหมุดของคณะราษฏรโดยทำพิธีกรรมเหมือนเป็นการหมิ่นต่อสถานที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้มีผลต่อบ้านเมืองได้รับความเดือดร้อนแตกแยก วุ่นวาย อันเกิดจากการกระทำที่มีผลต่อประชาชนและแผ่นดินสยาม ถึงแม้นไม่ล่มสลายแต่ก็ทำให้เกิดความแตกแยกวุ่นวายตายจากเกิดขึ้นในบ้านเมือง ” ซินแสเข่งกล่าว