THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

31 ตุลาคม 2563 : 19:03 น.

ผอ.ศูนย์ร้องทุกข์พปชร.อัดรองประธานวิปฝ่ายค้านจากเพื่อไทยควรมีความจริงใจในการแก้ปัญหาเพื่อบ้านเมืองอย่าใช้วาทกรรมให้ร้ายพล.อ.ประวิตรเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด ระบุเป็นยุคการเมืองแบบใหม่แล้ว

เมื่อวันที่ 31 ต.ค.นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตนต้องออกมาปกป้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. หลังจาก นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน อ้างว่า พล.อ.ประวิตร สมัย คสช. ได้เรียกทุกกลุ่มการเมือง พรรคการเมือง มาให้ข้อมูลเพื่อจะทำรายงานสร้างความสามัคคีปรองดอง และพยายามหยิบโยงใส่ร้าย พล.อ.ประวิตร ล้วนไม่ใช่เรื่องจริง ขอชี้แจงและเตือนสติ นายสมคิดว่าเป็นผู้ใหญ่และเป็นถึงรองประธานวิปฝ่ายค้านแล้วควรมีความจริงใจในการแก้ปัญหาเพื่อบ้านเมืองอย่าใช้วาทกรรมให้ร้ายคนอื่น หรือพูดเท็จโจมตี พล.อ.ประวิตร เพื่อให้ประชาชนเกิดการเข้าใจผิด

ทั้งนี้ หากได้สัมผัสกับ พล.อ.ประวิตร จะทราบว่ามีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านมาโดยตลอด ทั้งเรื่อง ปัญหาเหตุบ้านการเมือง ปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อน เป็นคนใจกว้างและมีเมตตา แต่นายสมคิด ต่างหากที่ทำตัวเป็นนักการเมืองยุคเก่าไม่ยอมพัฒนาตัวเองและใช้วาทกรรมใส่ร้ายป้ายสีให้เกิดความเกลียดชัง ตนคิดว่าในสถานการณ์แบบนี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วควรทำการเมืองแบบใหม่ นอกจากนี้ ตนไม่เห็นนายสมคิด จะมีความจริงใจในการใช้กลไกรัฐสภาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตั้งกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งมีญัตติของพรรคเพื่อไทยแต่กลับไม่ได้ส่งคนมาชี้แจงในกรรมาธิการ และพรรคเพื่อไทยไม่ได้แต่งตั้งใครเข้ามาเป็นกรรมาธิการด้วย 

“ในโลกสังคมโซเชียลได้ส่งข้อมูลมาให้ผมในฐานะ ผอ.ศูนย์ร้องทุกข์ พปชร.ก็พบว่าพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ นายสมคิด ไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อชี้แจงหาทางออกให้กับรัฐบาลหรือประชาชนในช่วงสถานการณ์แบบนี้เลย อีกทั้ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องศึกษาให้รอบด้าน ไม่ใช่ต้องการแก้เพื่อให้พรรคฝ่ายค้านกลับมามีอำนาจเพราะประชาชนจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยจากเรื่องนี้ โดยการปรองดองสมัย คสช. ก็เห็นได้ว่าไม่เคยมีม็อบแต่พอเป็นการเมืองในปัจจุบันนั้น พล.อ.ประวิตร เปิดกว้างกเพราะถือว่าประเทศไทยปกครองโดยระบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อันทรงเป็นพระประมุข ก็ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีการปิดกั้นให้พูดแต่อย่างใด และทำให้มีการจัดม็อบรายวัน”นายสามารถกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายสมคิดไม่ค่อยชอยฟังอะไรก็ควรรับฟังบ้างเพราะพระเจ้าสร้างให้เรามี 1 ปาก 2 หู คือ ให้ฟังมากกว่าพูดจึงขอเตือนสติ นายสมคิด ให้เป็นนักการเมืองแบบใหม่เพราะตอนนี้การเมืองยุคใหม่ได้เปลี่ยนการเมืองแบบเดิมไปแล้ว โดยปัจจุบันความขัดแย้งของบ้านเมืองก็เกิดขึ้นเนื่องจากวาทกรรมของนักการเมืองที่ชอบพูดข้อมูลเท็จให้กับประชาชน ชอบใช้จิตวิทยาการเมืองพูดเรื่องไม่จริงบ่อยๆจนคนเชื่อถือทำให้เกิดความแตกแยก ฉะนั้น การจะให้สังคมกลับมาปรองดองกันได้ตัองเริ่มจากนักการเมือง และ นายสมคิด ควรต้องปรับตัวในเรื่องนี้ด้วย เพื่อให้บ้านเมืองกลับมาปรองดอง 

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ