THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

27 ตุลาคม 2563 : 21:13 น.

กองปราบบุกจับ"เฮียกุ่ย รัชดา- อ.ยอด ศูนย์มหาสมบัติ"อ้างเป็นเหลนหลวงวิจารณ์เจียรนัย ตุ๋นประชาชาหลอกปล่อยเช่าพระสมเด็จปลอม

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ต.วาทิต จิตรจันทึก สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมนายสุขธรรม ปานศรี หรือ “เฮียกุ่ย รัชดา” อายุ 70 ปี นายธรรมยุทธ์ หรือยอด เจนพิชิตกุลชัย หรือ อาจารย์ยอด เจ้าของศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน อายุ 60 ปี นายไตรเทพ ไกรงู อายุ 48 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1574-1576 /2563 ลง 12 ต.ค.63 ตามลำดับในข้อหา “ปลอมเอกสารขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดเพื่อให้ผู้อื่นหลวงเชื่อว่าเป็นเอกสารจดหมายเหตุที่แท้จริง , ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”

ทั้งนี้ จับกุมนายสุขธรรมได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 140/21 ซ.รัชประชา 4 แขวงและเขตจตุจักร กทม. จับกุมนายธรรมยุทธ์ ได้ที่ บริเวณหน้าอาคารจัดแสดง เลขที่ 99 ศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน ม.3 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจับกุมนายไตรเทพ ได้ที่บ้านเลขที่ 1669/367 ซ.หมู่บ้านปิ่นเจริญ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายธรรมยุทธ์ หรือยอด ได้จัดสร้างศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน ที่ จ.สงขลาขึ้น เพื่อจัดแสดงโชว์สมบัติมีค่าและวัตถุโบราณ ประกอบด้วย พระสมเด็จพุฒาจารย์โต กว่า 5 แสนองค์ แม่พิมพ์ผลิตพระสมเด็จพุฒาจารย์โต จำนวน 3-4 หมื่นเครื่อง รวมถึงบล๊อคทองคำต่างๆอีกมากมาย อ้างว่าเป็นของหลวงวิจารณ์เจียรนัย บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่มีการกล่าวขานว่า เป็นช่างหลวงในราชสำนักผู้แกะพิมพ์พระสมเด็จ ถวายสมเด็จพุฒาจารย์โต และ ผสมมวลสารสร้างพระสมเด็จ รวมถึงยังมีการนำวัตถุโบราณจำพวกหยก หุ่น เสื้อผ้าโบราณและของมีค่าอื่นๆจากประเทศจีนที่อ้างว่าอยู่ในสมัยราชวงศ์ชิง ซูสีไทเฮา  และ “ปูยี” จักรพรรดิองค์สุดท้ายจีนแผ่นดินใหญ่ มาจัดแสดงโชว์ร่วมอีกด้วย

นอกจากนั้น นายธรรมยุทธ์ ยังได้อ้างอีกว่า พระสมเด็จและบล็อคแม่พิมพ์ต่างๆได้มาจากมรดกตกถอดจากบรรพบุรุษ คือ หลวงวิจารณ์เจียรนัย เพราะมีศักดิ์ เป็นเหลนรุ่นที่ 6 สิ่งของมีค่าเหล่านี้ที่ถูกเก็บไว้นานกว่า 144 ปี จึงได้ตกทอดมา พร้อมทั้งนำภาพถ่ายโบราณของบุคคลทางประวัติศาสตร์ ภาพหนึ่งซึ่งมีตราประทับรับรองจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ มากล่าวอ้างว่า เป็นภาพถ่ายของหลวงวิจารณ์เจียรนัย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ส่วนวัตถุโบราณสิ่งของมีค่าจากจีน เป็นสมบัติของแม่ที่ขนมาจากประเทศจีนก่อนเข้ามาพำนักมีครอบครัวอยู่ในไทย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังศูนย์ดังกล่าวสามารถเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม นายธรรมยุทธ์ ได้ร่วมกับ นายสุขธรรม หรือ “เฮียกุ่ย รัชดา” เซียนพระชื่อดัง และ นายไตรเทพ จัดทำคลิปวิดีโอ เผยแพร่เรื่องราวของศูนย์ดังกล่าวลงในยูทูปและสื่อสังคมออนไลน์ ต่างๆ พร้อมทั้งลงประกาศแจกพระสมเด็จที่อ้างว่าเป็นพระแท้ ให้กับประชาชนชนทั่วไปฟรีจำนวน 2 แสนองค์ แต่มีข้ออแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินค่ากรอบและสร้อยคอคล้องพระคนละ 1,000 บาท โดยนำใบตรวจอายุคาร์บอเนตจากการตรวจสอบมวลสาร ของสถาบันนิวเคลียร์ ที่ทำปลอมขึ้นมาแสดงโชว์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนมีผู้หลงเชื่อเช่าพระสมเด็จองค์ดังกล่าวจำนวนนับหมื่นราย

นอกจากนี้ ก่อนหน้าจะมีโครงการแจกพระสมเด็จยังมีผู้หลงเชื่อเป็น นายแพทย์คนหนึ่ง ติดต่อขอเช่าในราคา 1,800,000 บาท แต่เมื่อได้พระสมเด็จมาแล้ว นายแพทย์คนดังกล่าวได้นำไปให้เซียนพระและสถาบันต่างๆเกี่ยวกับพระเครื่องตรวจสอบ พบว่าเป็นของปลอม จนนำไปสู่การตรวจสอบใบรับรองของสถาบันนิวเคลียร์ และ ภาพถ่ายที่มีตราประทับจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ที่อ้างว่าเป็นหลวงวิจารณ์เจียรนัย ก่อนจะพบว่าเป็นการปลอมแปลงขึ้นมาทั้งหมด นายแพทย์ผู้เสียหายและกรมศิลปากร จึงได้เข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. จนมีการออกหมายจับ นำไปสู่การติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนดังกล่าว

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การภาคเสธ โดย นายธรรมยุทธ์ อ้างว่า ไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวงเอาเงินจากประชาชน เพราะตนเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นพระปลอม เช่นเดียวกับภาพถ่ายต่างๆ เพราะเป็นมรดกตกทอดที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ แต่ยืนยันว่าเป็นเหลนของหลวงวิจารณ์จริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ