สถ.ผนึกกำลังกสศ.เดินหน้าพัฒนาครูและเด็กนอกระบบการศึกษาตั้งเป้าหมายลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเสมอภาคอย่างยั่งยืน
นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการสนับสนุนการพัฒนาครูและเด็กนอกระบบการศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมี นายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ดร.วีระเทพ ปทุมเจริญวัฒนา ที่ปรึกษาโครงการสนับสนุนการพัฒนาครูและเด็กนอกระบบการศึกษา นายสุพจน์ จิตร์เพ็ชร์ ผอ.กองส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาท้องถิ่น ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำนวยการสำนัก/กองการศึกษา จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น( อปท.)ทั่วประเทศร่วมพิธี ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์
นายประยูร กล่าวว่า โครงการดังกล่าว กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา กลุ่มเด็กด้อยโอกาสได้รับความช่วยเหลือดูแลอย่างเหมาะสมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19มีโอกาสเข้ารับการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะอาชีพได้ตามความศักยภาพและความต้องการ เพื่อเพิ่มศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพและเหมาะสม ไปจนถึงเพื่อพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้และระดมความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ขณะนี้ มี อปท. เข้าร่วมโครงการ จำนวน 61 แห่ง ครอบคลุม 43 จังหวัด
“ปัจจุบันมีเด็กนอกระบบการศึกษาที่อยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของ อปท.จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 800,000 คน ซึ่งเป็นเด็กที่ไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษา หรือ ต้องออกจากสถานศึกษา เนื่องจากปัญหาสภาพเศรษฐกิจหรือปัญหาของครอบครัว ประกอบกับในปัจจุบันเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กลายเป็นมหาวิกฤต ส่งผลให้เกิดภาวะการเลิกจ้าง และการว่างงาน บางครอบครัว เด็กๆ ต้องออกจากโรงเรียนหรือต้องย้ายที่อยู่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้รับความร่วมมือจาก กสศ. ในการแก้ปัญหาเด็กนอกระบบ โดยการสนับสนุนทุนการศึกษา เงินช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส คนละ 4,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการนำส่งเด็กเข้าระบบการศึกษา หรือเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ทักษะอาชีพ” อธิบดี สถ. กล่าว
นาย สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ทำยากที่สุด เพราะเด็กนอกระบบการศึกษาเป็นกลุ่มที่สำรวจยาก มีหลากหลายกลุ่ม และไม่ได้ขึ้นทะเบียน คาดว่ามีประมาณหลายแสนคน สถ.และกสศ.จึงร่วมกันทำโครงการเพื่อบุกเบิกสำรวจเด็กกลุ่มนี้เพื่อเข้าช่วยเหลือ จากการสำรวจพบเด็กหลุดนอกระบบการศึกษาในสังกัดอปท.ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเป็นเด็กเร่ร่อน ติดตามพ่อแม่ไปทำงานตามที่ต่างๆ เป็นกลุ่มเด็กฮาร์ดคอร์ ซึ่งยูเนสโก้เคยทำวิจัยและสำรวจ พบว่า ถ้าผลักดันเด็กให้กลับมาสู่ระบบการศึกษาภาคปกติอาจไม่ได้ผล ดังนั้นต้องหาวิธีดูแลตามบริบทของเด็กและตามบริบทของพื้นที่
อย่างไรก็ตรม กสศ.ได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือ หากช่วยแล้วได้ผล จะขยายไปสู่ความช่วยเหลือเด็กอีกหลายแสนคนต่อไปทันที นอกจากนี้ กสศ.ยังได้ช่วยเหลือและสนับสนุนครู พัฒนาการทำงานให้มีศักยภาพ มีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ ทั้งนี้ความร่วมมือครั้งนี้ ได้วิจัยไปพร้อมกับการลงมือช่วยเหลือเด็ก ซึ่งจะตอบโจทย์ในแง่ของระบบเพื่อนำไปอ้างอิงต่อรัฐบาลและกระทรวง หากมีความชัดเจนและเห็นผลก็จะขยายสู่ระดับนโยบายต่อไป