นายกรัฐมนตรียังไม่ฟันธงต่อพ.ร.บ.ฉุกเฉินออกไปอีกหรือไม่ อ้างขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ระบุเป็นกฎหมายที่บูรณาการทำงานของทุกหน่วยงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น
เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.ถึงการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะสิ้นสุดในเดือนก.ย.นี้จะต่ออายุอีกหรือไม่ ว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใช้ในประโยชน์อย่างไร เพราะพ.ร.บ.โรคติดต่อของกระทรวงสาธารณสุข ไม่พอที่จะบูรณาการทุกส่วน ขณะเดียวกันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มีกฎหมายของตัวเองอยู่ ไม่ครอบคลุมที่จะปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ได้เกี่ยวกับการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในเรื่องอื่นๆเลย อย่างที่มีคนออกมาพูดกันในขณะนี้ มันคนละเรื่องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะไปเคลื่อนไหวในวันที่ 24 ก.ย.ที่หน้ารัฐสภา มองว่าส.ส.ที่ไปร่วมเหมาะสมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า การเคลื่อนไหววันที่ 24 ก.ย.ถือเป็นเรื่องของการชุมนุม ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จะดำเนินการ เป็นไปตามกฎหมายต่างๆ ทุกประการที่มีอยู่ ตนไม่อยากให้เป็นความขัดแย้งกันต่อไปอีก เพราะรัฐบาลไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ที่ผ่านมาพยายามให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดกลั้นอดทน เสียสละ และต้องขอบคุณบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองด้วยที่ช่วยกันดูแลลูกหลานของท่าน หลายๆอย่างปรากฏมาให้เห็นแล้ว เป็นเรื่องของสังคมจะตัดสินและวิเคราะห์กันเอง
" วันนี้เราต้องสร้างการเรียนรู้กันให้มากขึ้น มีหลักคิด มีหลักการและเหตุผลในการที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ ที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนโดยรวม มันจะทำให้ประเทศชาติเสียโอกาส ประชาชนก็เสียโอกาสไปด้วย อันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ผมอยากจะฝากพวกเรา ไม่มีใครแพ้ชนะ แต่สิ่งที่มันจะตามมาคือประเทศชาติเราจะเสียหาย ผมเป็นกังวลตรงจุดนั้นมากกว่า” นายกฯกล่าว