THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

09 กันยายน 2563 : 12:39 น.

เลขาธิการพรรคเพื่อไทยอภิปรายเรียกร้องให้นายกฯลาอกจากตำแหน่ง เหตุบริหารประเทศล้มเหลวหลายด้าน เปิดทางแก้ปัญหาประเทศ พร้อมชู 3 นิ้วกลางสภา แนะนายกฯ เลิกตีกอล์ฟวันหยุด แล้วเอาเวลาไปทำงานและเลิกฟังคนรอบข้างเป่าหู

เมื่อวันที่ 9 ก.ย.มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อซักถาม และเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธาน โดยน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายปรายเป็นคนแรกชี้แจงหลักการและเหตุผลการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ เนื่องจากสถานการณ์น่าเป็นห่วงหลายเรื่อง ไม่ว่าจะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจโลกหดตัวอย่างรุนแรง เป็นผลให้เศรษฐกิจที่แย่มาตั้งแต่ก่อนหน้า รุนแรงมากขึ้น รวมถึงการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภค การลงทุน เกิดการหดตัวอย่างรุนแรง

ขณะที่ รัฐบาลมีความเปราะบาง ก่อหนี้เงินกู้ขาดดุลงบประมาณสูงขึ้น และกู้เงินเพื่อใช้ในการเยียวยาแก้ปัญหา คาดการณ์ว่าหนี้สาธารณะปี 2564 จะสูงถึงร้อยละ 58 หรืออาจมากกว่านั้น ซึ่งจะมีผลต่อความยั่งยืนทางการคลัง ขณะเดียวกันก็เกิดสถานการณ์ทางการเมืองขึ้นมาแทรกซ้อน ซึ่งเป็นผลจากความไม่ชอบธรรมในการเข้าสู่อำนาจ และจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่เป็นไปเพื่อการสืบทอดอำนาจ จึงเกิดการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการข่มขู่คุกคามประชาชน ขอให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน และยุบสภาเพื่อคืนอำนาจ แต่รัฐบาลก็ใช้กฎหมายข่มขู่คุกคาม มีการจับกุมแกนนำผู้ชุมนุม ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งที่มีมากอยู่แล้วเกิดความตึงเครียด ส่งผลให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ยากยิ่งอยู่แล้ว ต้องทวีความยากขึ้นตามลำดับ ด้วยเหตุนี้จึงได้ร่วมกันลงชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เสนอญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป

สำหรับ การบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ขออย่าฟังคนรอบข้างที่ชอบประจบว่าบ้านเมืองไม่มีปัญหา โกหกทั้งนั้น และขอให้เลิกตีกอล์ฟทุกวันหยุด เอาเวลาไปแก้ปัญหาบ้านเมืองจะดีกว่า หลายปัญหาเคยพูดในสภาฯ แห่งนี้ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ก่อหนี้เยอะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยแล้ว ยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำให้เกิดการก่อม็อบ ทำให้เกิดการชุมนุมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ มีการรวมตัวกันของลูกหลานเยาวชนคนไทย ออกมาขับไล่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะเยาวชนมองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง จึงออกมาชู 3 นิ้ว ผูกริบบิ้นสีขาวออกมาไล่ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาถึงอุดมศึกษา แม้กระทั่งลูกหลานของคนในรัฐบาลก็ออกมาขับไล่ด้วย

"แต่นายกรัฐมนตรีตอบโต้ คุกคาม ออกหมายจับ ออกหมายเรียก ครูต้องลงโทษเด็กติดริบบิ้นสีขาว ตำรวจกดดันครู โรงเรียนกลายเป็นสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นและควรช่วยกันเปลี่ยนประวัติศาสตร์นี้ ให้มันจบในสภาที่รุ่นเรา และขออนุญาตชู 3 นิ้ว เป็นคำมั่นสัญญาปฏิญาณตนต่อหน้าคนไทยทั้งประเทศว่า จะขอคืนอำนาจอธิปไตยกลับมาให้ประชาชน จะใช้รัฐสภาแห่งนี้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหาทางออกของประเทศ ให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องของประชาชน และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติความรุนแรง ยุติการคุกคาม ยุติการออกหมายเรียก และยุติรัฐธรรมนูญเผด็จการ กลับสู่การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. คืนอำนาจให้ประชาชน และขอให้นายกรัฐมนตรียกเลิกหมายจับเยาวชนทั่วประเทศ เพื่อผ่อนคลายบรรยากาศทางการเมือง เปิดเวทีให้ลูกหลานเยาวชนเข้ามาเสนอข้อเรียกร้องผ่านตัวนายกรัฐมนตรี หยุดคุกคามแล้วเปลี่ยนเป็นคุ้มครอง หยุดปิดหูแล้วเปลี่ยนเป็นรับฟัง หยุดปิดกั้นแล้วนำเสนอทางออกร่วมกัน"น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การบริหารต้องเน้นเป้าหมายนำขบวนการ แต่ตอนนี้เน้นกระบวนการโดยไม่มีเป้าหมาย คือยุทธศาสตร์ 20 ปีที่นายกรัฐมนตรีกำหนดให้ทุกคนในประเทศปฏิบัติตามการกำหนดเป้าหมายจึงต้องคำนึงถึงบริบทของประเทศ และมีข้อเสนอ 4 ข้อ คือ 1.ลดรายจ่ายประจำ ลดจำนวนข้าราชการที่เกินความเหมาะสม จะได้เอาไปใช้จ่ายลงทุนผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ 2.กำหนดเป้าหมายของประเทศ สร้างฐานการผลิตใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของโลก 3.เปลี่ยนวิธีการงบประมาณใหม่ ต้องกำหนดเป้าหมายนำกระบวนการ ต้องมีตัวชี้วัดความสำเร็จของคุณภาพและผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน และ 4. ต้องเคารพอำนาจและสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะทำให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีความเชื่อมั่น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ จะต้องเลิกใช้อำนาจข่มขู่คุกคามประชาชน และสนับสนุนให้ประชาชนมีรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเป็นผู้สร้างเอง ยืนยันว่าเป็นข้อเสนอที่เป็นความปรารถนาดี ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง และมีข้อเสนอข้อสุดท้าย ถ้าพล.อ.ประยุทธ์อยากจะช่วยเหลือคนไทยจริงๆ ทำง่ายนิดเดียว คือขอให้ลาออกไป ถ้ากล้าหาญเหมือนกับเยาวชนที่ออกมาต่อสู้เรียกร้องในขณะนี้ เพราะหากประกาศลาออก ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นเกือบทั้งหมดในประเทศนี้ จะหายไปทันที และคนไทยทั้งประเทศจะปรบมือแสดงความยินดีกันทั้งประเทศ

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ