คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯชุด "วิชา มหาคุณ" เสนอนายกฯเริ่มสอบคดี "บอส อยู่วิทยา" ใหม่ในข้อหาที่ยังไม่หมดอายุความ พร้อมให้ดำเนินการทางอาญา-วินัย ตำรวจ-อัยการ-สนช.-ทนาย-พยาน-คนบงการ รวมหัวช่วยเป่าคดี
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 63 หลังจาก คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กรณีคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ที่มี นายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ได้เปิดเผยผลตรวจสอบต่อสื่อมวลชนโดยพบว่า มีความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบของเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทนายความ พยาน และบุคคลทั่วไป ในการเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการดำเนินคดีจนถึงปัจจุบัน โดยใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อิทธิพลบังคับ และการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
คณะกรรมการฯได้มีข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้เริ่มกระบวนการสอบสวนใหม่ให้ถูกต้องในข้อหาที่ยังไม่ขาดอายุความ โดยเฉพาะข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ ข้อหาขับขี่รถในขณะเมาสุราและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่น่ถึงแก่ความตาย
นอกจากนี้ยังเสนอให้มีการดำเนินการทางวินัยและทางอาญาต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลอื่นที่ร่วมในขบวนการนี้กล่าวคือ
-พนักงานสอบสวนซึ่งเกี่ยวข้องกับสำนวน
-พนักงานอัยการซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
-ผู้บังคับบัญชาซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่
-สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่
-ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่
-ทนายความซึ่งกระทำผิดกฎหมาย
-พยานซึ่งให้การเป็นเท็จ
-ตัวการ ผู้ใช้ และผู้สนับสนุนในการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว
นอกจากนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯยังเสนอให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญาในเรื่องอายุความในทำนองเดียวกับ คดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือ ถ้าผู้ต้องหาหลบหนีในระหว่างถูกดำเนินคดีอาญา และให้ฟ้องคดีโดยไม่ต้องมีตัวผู้ต้องหาได้และมิให้นับระยะเวลาที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ