THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

24 สิงหาคม 2563 : 16:35 น.

กองทัพเรือตั้งโต๊ะชี้แจงโครงการซื้อเรือดำน้ำ 22,500 ล้าน ระบุไม่ใช่การตั้งงบใหม่แต่เป็นงบผูกพันแบ่งจ่ายใน 7 ปี ย้ำมีความจำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางทะเล โต้เดือดพรรคเพื่อไทยไม่ใช่จีทูจีเก๊ไม่เหมือนโครงการจำนำข้าว

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่วังนันทอุทยาน กองบัญชาการกองทัพเรือ ทางกองทัพเรือ (ทร.) พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการกองทัพเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ แถลงชี้แจงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า การใช้เงิน 22,500 ล้านบาทไม่ได้จัดซื้อในปี 2564 ครั้งเดียวแต่แบ่งจ่ายใน 7 ปี ดังนั้นการกล่าวถือเป็นการสร้างความเกลียดชังให้สังคม เรื่องนี้เป็นความลับของราชการ การนำเนื้อหาการจัดซื้อมาโจมตีและให้ข่าวที่ผิด ทั้งใช้เงินฟุ่มเฟือย ถือเป็นเรื่องการเมืองและเห็นแก่ตัวที่สุด จะยอมให้นักการเมืองนำเรื่องไม่จริงมาสร้างความเดือดร้อนทำไม จึงขอให้หยุดทำให้ประชาชนเกลียดชังกองทัพ ขอให้เปลี่ยนมุข หยุดสร้างความเกลียดชังและก่อการรวมตัว ตอนนี้นายกรัฐมนตรี มีภาระต่างๆ มากมายอยู่แล้ว หากการต่อสู้ของรัฐบาลและฝ่ายค้านจะทำให้ประเทศชาติหยุดชะงัก และทำให้กองทัพเรือเป็นจำเลย จึงขอให้เล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์

“ที่กล่าวหาว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ เป็นสัญญาเก๊ ก็ไม่เป็นความจริง จำนำข้าวที่พรรคเพื่อไทยทำต่างหากที่เป็นจีทูจีเก๊ และไม่ถูกต้อง แต่กองทัพเรือทำการซื้อแบบจีทูจีอย่างถูกต้องโปร่งใส ขอสังคมอย่าตกเป็นเหยื่อเรื่องการเมือง ” พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าว

พล.ร.อ.สิทธิพร มาศเกษม เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า จากการที่กองทัพเรือเข้าชี้แจงอนุกมธ.วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนมีอนุกมธ.บางคนนำข้อมูลไม่ครบถ้วนมาแถลง โดยหวังผลทางการเมืองและสร้างผลกระทบต่อรัฐบาล ซึ่งการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นไปตามยุทธศาสตร์ แต่ที่ผ่านมาถูกโยงเป็นประเด็นการเมือง โดยประเทศไทยจัดหาเรือดำน้ำในปี 60 และจะมีประจำการในปี 66

ด้าน พล.ร.ท.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ ยืนยันว่า การจัดหาเรือดำน้ำอีก 2 ลำ งบ 2.25 หมื่นล้านบาท เทียบไม่ได้กับความคุ้มค่าในการปกป้องผลประโยชน์ในทรัพยากรทางทะเลของไทยที่มีกว่า 24 ล้านล้านบาท คิดเป็นแค่ 0.093 % เท่านั้น กองทัพเรือพยายามจัดซื้อเรือดำน้ำและดำเนินการในปี 60 ปี 63 แม้มีคนกล่าวว่าจะไม่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ในเร็วๆ นี้ แต่ในทะเลจีนใต้ที่ใกล้ไทยนั้น มีหลายชาติประกาศความเป็นเจ้าของ มีการก่อสร้างสถานี และสนามบินเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุที่อาจทำให้เกิดการปะทะกันได้ หากเกิดการปะทะกัน นี่คือเส้นเลือดใหญ่ของไทยในการค้าและจะมีปัญหาตามมา โดยจะมีปัญหาในเวลาใกล้หรือไกลต้องรอประเมิน

ขณะที่ พล.ร.ท.ธีรกุล กาญจนะ ปลัดบัญชีทหารเรือ ชี้แจงว่า เป็นการตั้งงบแบบผูกพัน ไม่ใช่การตั้งงบใหม่ ซึ่งกองทัพเรือ เข้าใจถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 กองทัพเรือ ได้ขอทางการจีนชะลอการจ่ายงวดปี 63 ไปแล้ว 3,375 ล้านบาท และนำเงินส่วนนี้ส่งคืนให้รัฐบาล ผ่าน พ.ร.บ.โอนงบ 4,130 ล้านบาท คิดเป็น 8.78 % ทำให้ต้องขยับกรอบชำระจากกรอบ 63-69 เป็นถึงปี 70 ซึ่งที่ผ่านมา ทร.ก็ตั้งงบโดยคำนึงถึงความประหยัดเป็นหลัก

พล.ร.ต.อรรถพล เพชรฉาย ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ชี้แจงถึงกรณี ที่ถูกพาดพิง เป็นสัญญาเก๊ เป็นการลงนามที่ไม่รองรับด้วยทางกฎหมายส่อโมฆะ ว่า พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสธ.ทร. ในสมัยนั้น เป็นผู้ลงนาม ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย

ขณะที่ น.อ.ธาดาวุธ ทัตพิทักษ์กุล รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ยืนยันว่า สัญญาจีทูจีเป็นไปอย่างถูกต้อง พร้อมฉายเส้นทาง การลงนามข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำลำที่ 1 โดย รัฐบาลจีน สั่งการให้ SASTIND มอบอำนาจให้ บริษัท CSOC ก่อนมอบอำนาจให้  Chirman of CsOC มาเซ็นสัญญา ขณะที่ ฝั่งไทย ครม.ได้อนุมัติ ให้ใช้วิธีจัดซื้อแบบจีทูจี มอบอำนาจให้ ผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้แทน โดย ผบ.ทร.ในสมัยนั้น ได้มอบอำนาจให้ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสธ.ทร.ในฐานะ ประธาน กจค.ไปเซ็นสัญญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รองประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าร่วมฟังงานแถลงข่าวด้วย

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ