ลุ้นระทึกการประชุมคณะกรรมการอัยการ 18 ส.ค. จะเสนอออกระเบียบสอบดุลพินิจ"เนตร นาคสุข" รองอัยการสูงสุดผู้สั่งไม่ฟ้อง"บอส อยู่วิทยา"ได้หรือไม่
เมื่อวันที่ 9 ส.ค.นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพิจารณาทางออกคดีที่ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด มีความเห็นกลับสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์ชนตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิตว่า ในวันที่ 18 ส.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ) โดยมีวาระการประชุมที่น่าสนใจ 3 เรื่อง 1.คือการประชุมเเต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการระดับอธิบดีอัย และรองอธิบดีอัยการ
2.เรื่องคดีนายวรยุทธ จากที่มีกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งตนกับ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ได้คุยกันว่าจะมีการเรียนเชิญอดีต อสส.และอดีตรอง อสส.ให้เข้ามาตรวจสอบการใช้ดุลพินิจในการสั่งคดีของ นายเนตร นาคสุข รอง อสส.ว่าเป็นไปโดยชอบหรือไม่ โดยการทาบทามบุคคลที่จะมาตรวจสอบเป็นไปตามที่ ก.อ.มีมติ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชฝ่ายอัยการฯ 2553 มาตรา 30(10) โดยตนกับ อสส.จะต้องมาคุยกันว่า จะเสนอชื่อบุคคลใดให้พิจารณา แม้ตนกับ อสส.จะตกลงกันได้แล้วแต่ก็ต้องให้ ที่ประชุม ก.อ.พิจารณาเห็นชอบว่าควรตรวจสอบหรือไม่ และกรรมการที่เสนอชื่อไป ก.อ.จะเห็นชอบด้วยหรือไม่ หรือจะเสนอชื่อใครเพิ่มหรือลดได้อีก ส่วนคุณสมบัติผู้ที่ถูกทาบทามจะต้องเป็นอดีต อสส.หรือรอง อสส. ส่วนจะต้องมีความอาวุโสระดับไหนแล้วเเต่จะคุยกัน ถ้าหากคุยกันได้ลงตัวแล้วค่อยไปทาบทามบุคคลนั้นว่าจะสามารถมาเป็นคณะบุคคลตรวจสอบเรื่องนี้ได้หรือไม่
นายอรรถพล กล่าวว่า นอกจากนี้ในการประชุมดังกล่าวจะมีวาระสำคัญอื่นอีกคือ กรณีตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชฝ่ายอัยการฯ พ.ศ.2553 และการออกระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดเกี่ยวกับเรื่องการสอบวินัย เขียนไว้ว่า อัยการสูงสุดจะสอบวินัยข้าราชการอัยการได้ยกเว้นระดับรอง อสส.แต่ใน พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการฯ2553 ระบุในมาตรา 74 บัญญัติว่า การจะตั้งกรรมการสอบสวนชั้นต้นได้อย่างไรต้องเป็นไปตามที่หลักเกณฑ์ ก.อ.กำหนด แต่ในระเบียบ ก.อ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสอบสวนชั้นต้นกรณีข้าราชการถูกกล่าวหา หรือเป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัยฯ 2554 ข้อ 3 บัญญัติไว้ว่าให้ผู้บังคับบัญชาดังต่อไปนี้ มีอำนาจดำเนินการสอบสวนชั้นต้น (1) อัยการสูงสุด สำหรับข้าราชการอัยการทุกตำแหน่งยกเว้นรองอัยการสูงสุด จึงเกิดปัญหาว่า ถ้าไม่มีระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์แล้วก็จะสอบสวนชั้นต้นรอง อสส.และ อสส.ไม่ได้ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะหลังจากออก พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชฝ่ายอัยการฯ พ.ศ.2553 เเล้วมี ก.อ.ท่านหนึ่งได้เสนอให้ออกระเบียบที่ว่านี้ แต่ยังไม่ได้ออก ในสมัยที่ตนเป็น อสส.ก็ได้เขียนร่างระเบียบนี้ขึ้นมาแต่ไม่ทันได้ออกก็พ้นตำแหน่งก่อน แต่มาคราวนี้เมื่อมีปัญหาเกี่ยวข้องกับรอง อสส.แล้วจึงต้องมีการออกระเบียบก่อน มิเช่นนั้นจะสอบระดับรอง อสส.ไม่ได้ ซึ่งตนได้สั่งการให้อธิบดีสำนักงานคณะกรรมการอัยการร่างระเบียบเเล้วให้เสนอมายังตนพิจารณาเพื่อที่จะนำเข้าวาระการประชุมในวันที่ 18 ส.ค.นี้ด้วย
"คณะบุคคลที่ ก.อ.พิจารณาตั้งวันที่ 18 ส.ค.นี้ จะได้รับมอบหมายหน้าที่ในการตรวจสอบดุลพินิจของ นายเนตร รอง อสส.ตามมาตรา 30(10) เนื่องจากผู้ที่จะถูกตรวจสอบชั้นต้นเป็นรอง อสส.ทาง ก.อ.จึงต้องออกระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์ในการสอบว่า จะมีหลักเกณฑ์อย่างไร ระเบียบต้องผ่านก่อนถึงจะสอบได้" นายอรรถพล กล่าว