กรมการพัฒนาชุมชน จับมือไอคอนสยาม จัดงาน ไอคอนคราฟต์ มุ่งเชิดชูเหล่าศิลปินผู้สร้างสรรค์งานผ้าไทย เชิญชวนอุดหนุนผ้าไทย สืบทอดมรดกแห่งภูมิปัญญา แห่งบรรพชน

วันที่ 3 สิงหาคม 2563 เวลา 15.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน นิทรรศการผ้าไทยครั้งยิ่งใหญ่ “ICONCRAFT Thai Textile Heroes” โดยมี นางปารีสา จาตนิลพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด พร้อมด้วย อาจารย์เถ่า-มีชัย แต้สุจริยา แห่งบ้านคำปุน อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย แห่งบ้านจันทรโสมา นายพลพัฒน์ อัศวะประภ ดีไซเนอร์แบรนด์ ASAVA นายประภากาศ อังศุสิงห์ เจ้าของแบรนด์ Hook's by Prapakas สื่อมวลชน และประชาชนผู้สนใจร่วมงาน อย่างคับคั่ง ณ ไอคอนคราฟต์ ชั้น 4 ไอคอนสยาม

นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้บริหารไอคอนสยาม ที่สนับสนุนพี่น้องในชุมชน ที่อยู่ในพื้นที่ทั่วประเทศให้ได้มีโอกาสที่ดีของชีวิต โดยเฉพาะในเรื่องของผ้าไทย ได้นำเอาภูมิปัญญาต่างๆ มาประจำไว้ที่ไอคอนสยาม ทำให้พี่น้องจำนวนหลายร้อยครอบครัว พ้นจากความยากจน ในวันนี้จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสได้มาร่วมงานที่ทรงคุณค่าเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดือนนี้เป็นเดือนที่มีความสำคัญยิ่งของพวกเราชาวไทย คือเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนแห่งการเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งพระองค์ทรงมีคุณูปการอย่างยิ่ง ในการชุบชีวิตฟื้นลมหายใจของผ้าไทย เดือนนี้จึงเป็นเดือนที่นับว่ามีความเหมาะสมที่เราได้มีโอกาสนำเอาผลงานที่สุดยอด ของศิลปินผ้าไทย ในเรื่องของการทอผ้า การออกแบบ ได้มารวมกันอยู่ที่ไอคอนสยามแห่งนี้

ผ้าไทยเป็นส่วนสำคัญที่พี่น้องคนไทยรวมกลุ่มกันทอผ้า หารายได้เลี้ยงดูครอบครัว สืบทอดภูมปัญญา และรัฐบาลได้สนับสนุน ต่อยอดโครงการศิลปาชีพ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณให้เกิดการขับเคลื่อน เพื่อให้พี่น้องกลุ่มทอผ้ามีเงินหมุนเวียนไปเลี้ยงครอบครัวและสร้างความมั่นคงให้แก่ชีวิตของคนในท้องถิ่น และเรายังโชคดีที่ท่านนายกรัฐมนตรี สนับสนุน มีมติ ครม. ขอให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพี่น้องประชาชนช่วยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาสามารถเพิ่มพูนรายได้ โดยเฉพาะเรื่องผ้าไทยในจังหวัดต่างๆ ที่ทางกรมการพัฒนาชุมชน คิดเป็นตัวเลขออกมา ได้มากถึงเกือบ 15,000 ล้านบาท สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความมั่นคงอย่างยั่งยืนต่อชีวิตของผ้าไทย สมดั่งที่เป็นพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ และมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะรื้อฟื้นให้ผ้าไทยอยู่คู่กับสังคมไทยตลอดไป

“ขอขอบคุณทางไอคอนสยามที่เป็นกำลังใจที่สำคัญ เป็นเหมือนเสาหลักของพี่น้อง OTOP และพี่น้องผ้าไทย ทั้งยังได้ช่วยจัดนิทรรศการผ้าไทยครั้งยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้น อันจะส่งผลทำให้ผ้าไทยของเรานั้นมีอายุยั่งยืน ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ผู้เป็นศิลปิน และนักออกแบบที่มีชื่อเสียง ได้ช่วยกันพัฒนาและยกระดับผ้าไทย ให้เป็นมรดกที่สามารถสร้างรายได้ไปสู่ครอบครัวของชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของพี่น้องประชาชนให้เกิดความมั่นคง เข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว

นางปารีสา จาตนิลพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า งาน ‘ไอคอนคราฟต์’ เป็นเวทีแสดงศักยภาพและสนับสนุนส่งเสริมผลงานของสุดยอดช่างฝีมือไทยจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศกว่า 500 แบรนด์ ผ่านการส่งต่อความภูมิใจของผลงานคราฟต์ของคนไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จักและชื่นชม พร้อมให้การสนับสนุนและทำงานร่วมกันกับชุมชนท้องถิ่น จนเกิดเป็นคอมมูนิตี้คนรักงานคราฟต์อย่างแท้จริง เพื่อสืบทอดภูมิปัญญามรดกหัตถกรรมไทย พร้อมสร้างคุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดสู่การค้าขายในเวทีโลก รวมถึงส่งเสริมกลุ่มบุคคลพิเศษผู้พิการผู้ด้อยโอกาสจากทั่วประเทศได้แสดงความสามารถหรือนำผลิตภัณฑ์มาวางจำหน่าย อีกทั้งส่งต่อแรงบันดาลใจจากยอดฝีมือช่างคราฟต์ไทยด้วย กิจกรรม workshop และ Installation ที่ให้ทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งของงานคราฟต์อีกด้วย โดยครั้งนี้ ไอคอนคราฟต์ จึงได้จัดงาน “ICONCRAFT Thai Textile Heroes” นิทรรศการผ้าไทยครั้งยิ่งใหญ่ของเหล่าศิลปินผู้สร้างสรรรค์งานผ้าไทยร่วมกับเหล่าดีไซเนอร์ผ้าไทยรุ่นครู ที่มาช่วยกันรังสรรค์ผลงานผ้าไทยสุดวิจิตรมาจัดแสดงให้ชมกัน

ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการผ้าไทยครั้งยิ่งใหญ่ของเหล่าศิลปินผู้สืบสานงานหัตถศิลป์มรดกของวัฒนธรรมไทย รังสรรค์ผลงานผ้าไทยสุดวิจิตรมาจัดแสดงให้ชมกัน อาทิ นายมีชัย แต้สุจริยา (คุณเถ่า) ผู้ก่อตั้งบ้านคำปุน และพิพิธภัณฑ์คำปุน จ.อุบลราชธานี ที่ได้พัฒนาผ้ามัดหมี่ ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ และคิดค้น "ผ้ากาบบัว" ให้เป็นผ้าเอกลักษณ์ประจำ จังหวัดอุบลราชธานี นายวีรธรรม ตระกูลเงินไทย ผู้ก่อตั้งกลุ่มทอผ้ายกทอง ‘จันทร์โสมา’ หมู่บ้านท่าสว่าง จังหวัดสุรินทร์ สืบสานการทอผ้าเพื่อให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน อีกทั้งผ้ายกของบ้านท่าสว่าง เป็นผ้ายกที่ทอลายราชสำนัก ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายในนิทรรศการครั้งนี้ ยังมีการทำงานร่วมกันระหว่าง 3 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชื่อดัง ASAVA, Hook’s by Prapakas และ WISHARAWISH ที่สร้างสรรค์ผลงานร่วมกับชาวนาชาวไร่

กลุ่มทอผ้าตุ้มทอง บ้านนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ โดยนำเสนอชุดในดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ในสไตล์ของแต่ละแบรนด์ สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 8 ชุดเท่านั้น อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญภายในงาน พบกับการเปิดตัวคอลเลคชั่นกระเป๋าผ้าไหมไทยสุดพิเศษจากแบรนด์ Sirivannavari Bangkok โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ (Creative Director) Sirivannavari Bangkok Craftsmanship Showcase ในคอลเลคชั่นพิเศษ กระเป๋าทรงออกแบบครั้งนี้ พระองค์ทรงพระราชทานผ้าไหมไทยส่วนพระองค์ ที่เป็นผ้าไหมพื้นเมืองจากกลุ่มผู้ทอผ้าต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนและสร้างรายได้ให้กลุ่มผู้ทอผ้า พร้อมทั้งทรงออกแบบคอลเลคชั่นพิเศษกระเป๋าแฟชั่นรูปแบบผสมที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยรูปทรงของกระเป๋าถูกพัฒนาจากกระเป๋าถือทรงตะกร้าโบราณกับกระเป๋าถัง (Bucket Bag) เพิ่มความโดดเด่นจากงานฝีมือชั้นเยี่ยมจาก Sirivannavari Embroidery Atelier and Academy ด้วยงานปักแบบฝรั่งเศส ตราสัญลักษณ์นกยูงของแบรนด์และตัวอักษร “S” สัญลักษณ์ของแบรนด์อย่างประณีตถือว่าเป็นการเชิดชูภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทอผ้าไหมพื้นเมืองของไทยที่ผสมผสานกับศิลปะงานปักแบบฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่างานจัดงานในครั้งนี้จะทำให้ทุกท่าน ได้ร่วมมีส่วนร่วมยกย่องเชิดชูเหล่าศิลปินที่สร้างสรรค์งานผ้าไทย มรดกภูมิปัญญาและหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริม สนับสนุนผ้าไทย ตลอดชิ้นงานหัตถกรรมอันสวยงามของคนไทยเพื่อสืบสานภูมิปัญญามรดกทางวัฒนธรรมไทยให้คงมีสืบต่อไป” นางปารีสา กล่าว

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีกลุ่มผ้าไหมพื้นบ้าน กลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติ บ้านสวาย จ.สุรินทร์ มาร่วมจัดแสดงในนิทรรศการผ้าไทย ซึ่งเป็นชุมชนที่สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมการทอผ้ามายาวนานหลายร้อยปี บ้านสวายมีชื่อเสียงด้านการผลิตผ้าไหมที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของสุรินทร์ จุดเด่นอยู่ที่กรรมวิธีการทอที่สลับซับซ้อนมีความยาก ต้องใช้ความสามารถ และอาศัยทักษะความชำนาญในการทอ โดยเฉพาะการทอผ้าไหมมัดหมี่ยกดอก ซึ่งทำให้ผ้ามีเนื้อแน่นใส่ได้ทนทาน ทว่ายังความนุ่มพลิ้วไหวและระบายอากาศได้ดีเยี่ยม และยังมี ผ้าผืน แบรนด์ดังมาร่วมจำหน่ายภายในงาน อาทิ Bantrokkhae กลุ่มทอผ้าบ้านตรอกแค ผ้าพื้นเมืองเอกลักษณ์ของท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช, Mantra ผ้าที่เน้นอนุรักษ์ลายโบราณ เน้นความประณีต เทคนิคโบราณต่างๆ และส่งเสริมการใช้สีธรรมชาติ, Khwan มูลนิธิขวัญชุมชนจากอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ผ้าไหมทอมือย้อมสีธรรมชาติ สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และ Silk Fusion ผ้าไหมแต้มหมี่ การพัฒนาเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากงานมัดหมี่ดั้งเดิม เป็นต้น

ขอเชิญผู้สนใจร่วมเชิดชูและสร้างความภาคภูมิใจกับมรดกแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถ่ายทอดลงในงานนิทรรศการผ้าไทยครั้งยิ่งใหญ่ของเหล่าศิลปินผู้สร้างสรรรค์งานผ้าไทย และงานจากช่างฝีมือไทยทั้งงานศิลปะ ประติมากรรม, ของตกแต่งบ้าน, จาน ชาม เซรามิก, และเครื่องประดับที่มีดีไซน์ เป็นต้น ได้ที่ ไอคอนคราฟต์ ชั้น 4 และ ชั้น 5 ไอคอนสยาม โดยยังคงเน้นมาตรการในการเว้นระยะห่าง และการดูแลรักษาความสะอาด การฆ่าเชื้อโรคต่างๆ เป็นสำคัญ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1338 หรือ www.iconsiam.com