คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตำรวจคดี "บอส อยู่วิทยา" ถกนัดแรก เตรียมเรียก "พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ" ที่ไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเข้าให้ข้อมูล
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 63 พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธาน คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการในคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ได้ประชุมคณะกรรมการเป็นนัดแรก
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.ศตวรรษ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนโดยระบุว่า คณะกรรมการชุดนี้ จะทำหน้าที่สืบหาข้อเท็จจริงว่า การใช้ดุลพินิจของ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ไม่แย้งคำสั่งของอัยการ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะรื้อฟื้น หรือสืบสวนเพิ่มเติมเพราะคดีผ่านชั้นสืบสวนของตำรวจมาแล้ว โดยคณะกรรมการจะเชิญ พล.ต.ท.เพิ่มพูน เข้าให้ข้อมูลเร็วๆนี้
ด้าน พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน ไม่เกี่ยวข้องกับพยานใหม่ 2 ปาก เนื่องจาก อัยการเป็นฝ่ายมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำเพิ่ม หลังผู้ต้องหายื่นร้องขอความเป็นธรรมกับคณะกรรมาธิการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
"พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนที่อัยการกำหนด โดยไม่สามารถก้าวล่วงกับการให้น้ำหนักกับพยาน 2 ปากนี้"พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ที่ผ่านมา คดีร้อยละ 97 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นไม่แย้งคำสั่งของอัยการ โดยมีเพียงร้อยละ 3 เท่านั้นที่เห็นแย้ง และโดยทั่วไป ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบคดีตามเขตอำนาจของพนักงานอัยการ โดยความเห็นแย้งหรือไม่แย้งไม่ต้องรายงานให้ ผบ.ตร.ทราบ
สำหรับการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะพิจารณาใน 3 แนวทาง คือ 1.การสอบสวนและความเห็นชั้นพนักงานสอบสวน 2.การสอบสวนเพิ่มเติมตามความเห็นของอัยการ 3.การตรวจสอบการใช้ดุลพินิจไม่แย้งสำนวน ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
"ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการไม่มีผลต่อคดีความ เพราะคดีสิ้นสุดแล้ว แต่หากพบว่ามีการใช้ดุลพินิจไม่ชอบ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาความผิดทางวินัยและอาญาต่อไป แต่แม้กระบวนการของตำรวจจะสิ้นสุด แต่ครอบครัวผู้เสียหาย ยังสามารถฟ้องร้องคดีต่อศาลได้เอง ตามกระบวนการยุติธรรม"พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าว