ศบค.เผย ศธ.ประชุมร่วมกับสธ. ผ่อนคลายให้โรงเรียนที่ต้องสลับเวลาเรียน 4,528 แห่ง เปิดให้นักเรียนไปเรียนได้ตามปกติ แต่มาตรการเสริมต้องเข้มข้น
เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19ประจำวันว่า กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาในการผ่อนคลายให้สถานศึกษาเปิดให้นักเรียนไปเรียนได้ตามปกติ เนื่องจากขณะนี้ยังมีการสลับเวลาเรียนหรือสลับวันเรียนในสถานศึกษา 4,528 แห่ง เหตุจากสถานศึกษามีขนาดคับแคบกว่าจำนวนนักเรียน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
ที่ประชุมมีข้อสรุปว่า จะให้นักเรียนไปเรียนได้ตามปกติ แต่ต้องมีมาตรการเสริมที่เข้มข้น คือ จัดห้องเรียนโดยให้จัดโต๊ะเรียนให้ห่างกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้, กรณีห้องแอร์ ให้เปิดประตู หน้าต่าง ช่วงพักเที่ยงหรือช่วงที่ไม่มีการเรียนการสอน, ให้มีการบันทึกข้อมูลการป่วยโรคทางเดินหายใจ
ทั้งนี้ให้กำกับโดยคณะกรรมการสถานศึกษาและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ รวมทั้งให้ปรับมาตรการ ตามสถานการณ์การระบาดและข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนั้นเป็นระยะๆ โดยการผ่อนคลายดังกล่าวจะถูกนำไปสู่การปฏิบัติต่อไปนพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า กรมอนามัย ได้ตรวจประเมินและติดตามสถานศึกษาหลังเปิดภาคเรียนพบว่า สถานศึกษามีมาตรการความปลอดภัยในการป้องกันการแพร่เชื้อ ถึงร้อยละ 99.47% มีเพียง 132 แห่งที่ยังมีมาตรการไม่ครบจากกว่า 20,000 โรงเรียนที่เข้าไปสำรวจ ซึ่งได้มีการแนะนำเพิ่มเติมให้สถานศึกษาดังกล่าวแล้ว
นอกจากนี้ร้อยละ97.27 ของสถานศึกษาไม่มีนักเรียนที่มีอาการของระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ไม่ได้กลิ่น หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก) ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานอาการป่วยเพียงร้อยละ 2.73 ซึ่งไม่ใช่การป่วยจากเชื้อโควิด-19