มติคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ เสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 63 มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ข้อสรุปเตรียมเสนอต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินที่จะหมดอายุวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ต่อไปอีก 1 เดือน โดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.เป็นผู้พิจารณา ในวันพรุ่งนี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้กล่าวตอบคำถามสื่อมวลชนที่ถามว่า ขณะนี้มีความคิดเห็นของประชาชนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ เปิดประเทศให้มีการค้าขาย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งมีคำถามว่าเปิดศบค.จะ รับมือความเสี่ยงติดเชื้อโควิดได้หรือไม่ และมีอีกกลุ่มหนึ่งต้องการให้ปิดประเทศไปเลย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า คำถามที่ว่าปิดประเทศเป็นไปไม่ได้ โลกเราต้องทำการค้าซึ่งกันและกัน ประเทศก็เหมือนบ้านจะไม่ไปมาหาสู่กันเลยไม่มีทาง เราไม่สามารถปิดได้ แต่จะปิดเฉพาะพื้นที่ที่สำคัญ เราต้องรู้ให้เร็วว่ามีการติดเชื้อแล้วขีดวงก่อนที่จะมีการระบาด หากรู้เร็วเราจะจำกัดขอบเขตได้ เพื่อเข้าไปจัดการ แต่หากมีการระบาดขึ้นมาเรากำลังมีการพิจารณาว่าหากปล่อยให้มีการติดเชื้อได้วันละเท่าไหร่จึงจะรับมือได้
ช่วงที่เราระบาดหนักที่สุด ระบาดไปถึง 188 คนต่อวัน ตัวเลขตรงนั้นก็ถือว่ามากไปในเบื้องต้นคิดว่า ตัวเลขที่เราจะรับมือได้คือ 30-50 คน ซึ่งคณะกรรมการฯกำลังพิจารณากันอยู่ว่าจากเตียงและบุคลาการทางแพทย์ที่เรามี หากมีตัวเลขอยู่ที่หลักสิบสะสมกันไป ยังพอไหวกับการบริหารจัดการ เศรษฐกิจต้องไปได้ การควบคุมโรคต้องไปได้ สองอย่างนี้ต้องสมดุลกัน
อย่างไรก็ตาม เราต้องขอบคุณประชาชนทุกคนที่ช่วยกันเรียนรู้ดูแลสุขภาพ โรคนี้ต้องอยู่กับเราอีกนาน จึงต้องขอให้ประชาชน อึด ฮึด สู้