เชียงใหม่-เร่งรื้อรีสอร์ทบนดอยม่อนแจ่มสร้างในที่ป่าสงวนแห่งชาติ ย้ำไม่มีเลือกปฏิบัติจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) พร้อมด้วย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 จ.เชียงใหม่ ชุดพยัคฆ์ไพร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ดอยเดอยม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในอ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อดูความคืบหน้าการดำเนินการฟื้นฟูสภาพดอยม่อนแจ่ม ในพื้นที่โครงการหลวง ที่มีการบุกรุกแผ้วถางก่อสร้างรีสอร์ท กระทั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีคำสั่งให้รื้อถอนเพราะเป็นการบุรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไปก่อนหน้านั้น
นายธเนศพล กล่าวว่า พื้นที่ดอยม่อนแจ่มในส่วนของโครงการหลวงหนองหอย มีการก่อสร้างรีสอร์ทจำนวน 113 แห่ง ซึ่งผิดกฏหมายทั้งหมด โดยแยกเป็น 29 แห่งเป็นนายทุนที่มีนอมินีทั้งต่างชาติและคนไทยเข้ามาดำเนินการ ส่วนอีก 84 แห่งพบว่า เป็นคนพื้นที่ดำเนินการเองที่มีการก่อสร้างเกินเลยจากข้อกำหนดของโครงการหลวง ซึ่งการดำเนินการทั้ง 29 แห่งนี้จะต้องรื้อถอนทั้งหมดและดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป ส่วนอีก 84 รายของคนในพื้นที่จะเรียกมาพูดคุยและให้รื้อถอนเอง หรือจะให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้รื้อถอนให้ เพื่อให้กลับมาเป็นสภาพพื้นที่เกษตรกรรม และโฮมสเตย์ ตามที่โครงการหลวงกำหนดเป็นวัตถุประสงค์ไว้
ทั้งนี้ ทุกอย่างเราจะเร่งดำเนินการเชื่อว่า ภายใน 3 เดือนทุกอย่างจะแล้วเสร็จ ส่วนบ้านพักรีสอร์ทที่ตอนนี้มีการรีวิว เชิญชวนนักท่องเที่ยวขึ้นมาพักหลังโควิด-19 ก็จะมีการดำเนินการตามกฏหมายเช่นกัน เพราะป่าไม้มีคำสั่งห้ามเปิดกิจการอยู่ แม้ผู้ประกอบกิจการบางราย ต่อสู้ทางกฏหมายโดยอ้างคำสั่ง คสช. ก็อยากเรียนตรงนี้ว่า คำสั่ง คสช. ใช้สำหรับพื้นที่ก่อสร้างรีสอร์ทในพื้นที่ตัวเอง แต่พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่โครงการหลวง คำสั่ง คสช.ไม่มีผลกับพื้นที่แห่งนี้ ใครทำผิดก็ว่าไปตามนั้นไม่มีเลือกปฏิบัติเพราะหากไม่แก้ไขวันนี้ปัญหาจะมากขึ้นแน่นอนและยังมีอีกหลายที่ที่อยู่ระหว่างตรวจสอบและรื้อถอนตามกฏหมายส่วนมากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังด้วย