THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

12 กรกฎาคม 2563 : 20:15 น.

.

โดย...อาจารย์ชวินทร์ chavintapoti@gmail.com     

*******************************

วันนี้มีโอกาสได้ส่องพระกำแพงลีลาเม็ดขนุนที่บางท่านอาจจะเรียก พระปางลีลาเม็ดขนุน หรือ พระลีลาเม็ดขนุนก็ได้ พระกำแพงลีลาเม็ดขนุนเป็นหนึ่งในพระเบญจภาคี เห็นองค์พระจริงมีความสวยงามของเนื้อดินละเอียดให้เห็นตามแบบของพระกำแพงเพชร เสียดายแค่ว่ามีรูปมาแค่ด้านหน้าและด้านหลัง ไม่รูปด้านล่างและด้านข้างมาให้ชมครับ

พระกำแพงลีลาเม็ดขนุนที่พบเห็นจะมี 3 สี คือ สีแดง,สีเหลืองและสีเขียว เป็นพระเครื่องที่ถือกำเนิดขึ้นในรัชสมัยของ พระมหาธรรมาลิไทย (พ.ศ.1900) พบครั้งแรกที่กรุวัดบรมธาตุในปี พ.ศ.2392 ต่อมาราวปีพ.ศ.2470 ก็ยังมีผู้พบที่กรุพิกุลเพิ่มเติมและกรุอื่นแต่มีจำนวนน้อยมาก

พระกำแพงลีลาเม็ดขนุนจะเป็นพระเนื้อดินละเอียดไม่มีเม็ดกรวดต่างจากพระกรุนางพญา พิษณุโลกเป็นพุทธพิมพ์ปางลีลาที่สวยงาม สมส่วน มองแล้วเหมือนท่านก้าวย่างไปข้างหน้าเป็นคตินิยมมาแต่โบราณสำหรับผู้ที่บูชาว่าจะมีความเจริญก้าวหน้า มีโชคมีลาภมาตลอด

จุดพิจารณาของพระกำแพงลีลาเม็ดขนุน ซึ่งเป็นตำหนิเอกลักษณ์ของพิมพ์มีดังนี้ครับ

-คางองค์พระจะแหลม

-ซอกแขนซ้ายจะเป็นสามเหลี่ยมลึก

-ในร่องที่เป็นกรอบทั้งสองข้างจะมีเส้นขีดขวางลักษณะคล้ายเกลียวเชือกอยู่ห่างกันสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการถอดแม่พิมพ์ ในองค์ที่ใช้สึก อาจจะต้องตะแคงส่องเล็กน้อย

-ฝ่ามือจะใหญ่พลิ้วและมีเส้นแซมเล็กในร่องหัวแม่มือ

-มีเม็ดบอลกลมระหว่างกลางเท้าทั้งสองข้าง

-ด้านหลังจะสังเกตเห็นร่องรอยการดันพระออกจากแม่พิมพ์

มาดูหลักในการพิจารณาพระเครื่องเนื้อดินเบื้องต้นที่เราควรคำนึงถึงคือ ศิลปะจะบอกถึงสกุลช่าง อายุพระจะบอกถึงความเก่าว่าควรมีลักษณะอย่างไร

พระเครื่องทุกชนิดที่มีอายุการสร้างที่เก่ามาก เป็นธรรมดาที่ผิวพรรณขององค์พระย่อมมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ดังนั้นสิ่งที่ต้องสังเกตุเบื้องต้น เช่น ความไม่เรียบบนพื้นผิว ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง,ลักษณะพื้นผิวทั้งด้านหน้าและด้านหลังจะมีลักษณะเป็นคลื่นเล็กน้อย ไม่เรียบเหมือนแผ่นกระจก ส่วนลักษณะพื้นผิวด้านหลัง ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นคลื่นเล็กน้อยและมีรอยนิ้วมือในการกด ที่สำคัญความแห้งเก่าทั้งด้านหน้าและด้านหลังต้องเท่ากัน

การสังเกตลักษณะของรารักที่เกาะบนพื้นผิวนั้น

-รารักจะมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆแตกเป็นแฉกคล้ายดั่งเวลาที่เราหยดหมึกลงบนกระดาษ หยดของน้ำหมึกจะกระจายเป็นแฉกไปรอบ

-รารักจะเกาะฝังตัวบนพื้นผิวพระล้างไม่ออก

-รารักจะเกิดเป็นหย่อมบริเวณที่มีความชื้นสูง

-รารักจะมีสีน้ำตาลอมดำ

-รารักต้องมีความแห้งสนิทเหมือนกับพื้นผิวทุกประการ

นวลดิน และฝ้ากรุที่เกิดขึ้น

ฝ้ากรุและนวลดินจะเกิดขึ้นกับพระกรุเนื้อดินเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพจากการถูกฝังในกรุ

ลักษณะฝ้ากรุและนวลดินจะคล้ายกับคราบแป้ง แต่บางกว่า มองไปเหมือนฉาบผิวไว้เหมือนกับคราบนวลบนผิวมะม่วง

ฝ้ากรุและนวลดินมีลักษณะขาวนวล แต่ไม่ใส และต้องไม่มีประกายรุ่งเมื่อกระทบแสงแดด ที่สำคัญจะพบในผิวพระที่ยังไม่ผ่านการใช้หรือสัมผัสมาก่อน และถ้าองค์พระผ่านการใช้มาจะพบเห็นในซอกลึกที่สัมผัสไม่ถึงเท่านั้น ความแห้งจะต้องเท่ากับผิวและเนื้อพระ

การพิจารณารอยแตก รอยราน และรอยกะเทาะ จะหมดความคมที่ขอบของรอยแตก รอยรานและรอยกะเทาะ และจะเห็นเศษฝุ่นละอองหรือคราบสกปรกจับตัวแน่นแทนที่ และต้องมีความแห้งเท่ากับเนื้อพระและผิวพระเช่นกัน

การพิจารณารูพรุนเล็กๆที่เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของมวลสารตามธรรมชาติ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ตัวประสานเนื้อพระหมดยางทำให้หลุดออกนั่นเอง

การเกิดจะเกิดขึ้นเป็นหย่อมๆเท่านั้น และจะเกิดขึ้นกับเนื้อพระที่มีความหยาบ มากกว่าพระเนื้อละเอียด และเนื้อภายในรูพรุนเหล่านี้จะต้องมีความแห้งสนิทเท่ากับผิวเนื้อด้านนอก

การพิจารณาความคมชัดและการรัดตัวขององค์พระ เมื่อเนื้อพระแห้งจัดจะเห็นการหดตัวขององค์พระเกิดขึ้น ลักษณะดังกล่าวคือต้องมีความคมชัดในส่วนที่แม่พิมพ์แกะลึก ต้องมีความตื้นในส่วนที่แกะตื้น ความคมชัดที่ปรากฏจะตั้งฉากกับพื้นผิว เห็นเป็นแท่ง เป็นสันขึ้นมา

การพิจารณาเรื่องกลิ่น กลิ่นของพระเนื้อดินที่สร้างใหม่ และเก่าจะต่างกันอย่างชัดเจน พระเนื้อดินเก่าจะมีความแห้งสนิท กลิ่นจะต่างกับพระเนื้อดินที่สร้างใหม่อย่างชัดเจน ไม่ว่าอย่างใดต้องปรากฏลักษณะใด ลักษณะหนึ่งขึ้น

ในอดีตพระกำแพงลีลาเม็ดขนุนจะหายากและมีราคาเช่าหาสูงมากกว่าพระกำแพงซุ้มกอ และจัดเข้าอยู่ในชุดเบญจภาคีก่อนพระกำแพงซุ้มกอ กลุ่มของพระกำแพงปางลีลาที่นิยมมีพุทธพิมพ์ 3 แบบคือ เม็ดขนุน พลูจีบ กลีบจำปา ตามคำกล่าวของนักสะสมพระรุ่นใหญ่ในอดีต และด้วยจำนวนการสร้างน้อยมาก และหายากกว่าพระกำแพงซุ้มกอรวมถึงรูปทรงของพระที่มีความยาวเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สันนิษฐานว่าทำให้วงการนักสะสมในยุคก่อนหันมาผนวกพระกำแพงซุ้มกอเข้ามาในชุดของพระเครื่องเบญจภาคีเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม พระกำแพงปางลีลาเม็ดขนุนถึงแม้ว่าจะมีจำนวนน้อยก็ยังเป็นสุดยอดพระเครื่องของพระกำแพงเพชร ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่แสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องพระบูชาอย่างกว้างขวางมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ว่า พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน มีอายุการสร้างกว่า 600 ปี ยุคเดียวกับพระกำแพงซุ้มกอ มีพุทธลักษณะคล้ายเม็ดขนุน พบครั้งแรกจากกรุวัดพระบรมธาตุ  หลังจากนั้นก็พบบริเวณลานทุ่งเศรษฐี แถบวัดพิกุล วัดอาวาสน้อย และกระจายทั่วไป มีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับพระกำแพงซุ้มกอ

พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน มวลสารจะมี 3 แบบ คือลักษณะเป็นพระเนื้อดินผสมว่านและเกสรดอกไม้ ,เนื้อว่านล้วน และเนื้อชิน พุทธศิลป์องค์พระที่งดงามมีลักษณะการก้าวย่างอ่อนช้อย สันนิษฐานว่าจำลองมาจากพระพุทธรูปปางลีลาในสมัยสุโขทัยด้วยฝีมือช่างหลวง

ด้านพุทธคุณของพระกำแพงลีลาเม็ดขนุน นั้นถือได้ว่าครบเครื่องทั้งโชคลาภ เมตตามหานิยม การทำมาค้าขาย จนเป็นที่มาของคำว่า"มีกูแล้วไม่จน" และแคล้วคลาด ในอดีตมีการกล่าวขวัญถึงว่า ห้อยพระกำแพงลีลาเม็ดขนุนแค่ครึ่งองค์(พระหักชำรุด) ยังแคล้วคลาดจากการถูกปองร้ายได้

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ