โฆษกศบค.เผยผลสำรวจพบ พฤติกรรมป้องกันตัวเองจากโรคระบาดของประชาชนเริ่มลดลง เตือนห้ามการ์ดตกเด็ดขาด ยังต้องเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า มีเสียงสะท้อนว่าขณะนี้ประชาชนการ์ดเริ่มตก ศบค.ได้ติดตามพฤติกรรมการป้องกันตัวของประชาชนหรือไม่
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผลสำรวจของกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับองค์การอนามัยโลก มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจพฤติกรรมป้องกันตัวเองของ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ผู้ตอบแบบสอบถามออนไลน์ และผู้ตอบแบบสอบถามทางโทรศัพท์ พบว่ากลุ่ม อสม. มีการป้องกันตัวเองดีที่สุด 87% ผู้ตอบแบบสอบถามทางออนไลน์ 74.8% และผู้ตอบแบบสอบถามทางโทรศัพท์อยู่ที่ 72.7% ซึ่งไม่ถึง 90% เท่ากับการ์ดตก
"ผลสำรวจพฤติกรรมป้องกันตนเองเมื่อเทียบกับเดือน เม.ย. 63 พบว่า อสม. ทำน้อยลง 6.6% ผู้ตอบแบบสอบถามทางออนไลน์ทำน้อยลง 13% และผู้ที่ตอบแบบสอบถามทางโทรศัพท์ 11% สรุปแล้วการ์ดตกลงไปจำนวนมาก"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ขอย้ำว่าประชาชนต้องการ์ดไม่ตก ต้องเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ คือสิ่งที่ทำให้เราปลอดโรคและปลอดภัย และเข้าสู่การผ่อนคลายระยะที่ 4 โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการประชุมเตรียมมาตรการไว้สำหรับการผ่อนคลายในระยะที่ 4 ไว้แล้ว เพื่อเราจะได้ขยับไปสู่มาตรการระยะที่ 4 ด้วยกัน ดังนั้น ต้องมีสติตลอดเวลา